149.The School bus comes at eight o'clock

By David McKee

นิทานภาษาอังกฤษที่สอนหลากหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่องนาฬิกา การดูเวลา การตรงต่อเวลา การบวกเลข ผู้เขียนสามารถนำมาผูกเรื่องกันได้อย่างกลมกลืน แต่ที่สะดุดสายตาตอนแรกคือชื่อเรื่องเพราะว่าบ้านเราเริ่มเข้าเรียนประมาณ 8 โมง แต่ต่างประเทศเค้าคงเข้าเรียนช้ากว่า รถโรงเรียนเลยมารับตอน 8 โมงเช้า จึงมีเรื่องให้คุยกับลูกได้อีกมากมาย

วันแรกของการไปโรงเรียนของสองพี่น้อง รถโรงเรียนมารับเวลา 8 โมงเช้า ทั้งสองบอกพ่อกับแม่ว่าที่บ้านไม่มีนาฬิกาเลยไม่รู้เวลา เมื่อถึงวันหยุดทั้งครอบครัวพากันไปซื้อนาฬิการุ่นคุณปู่มาไว้ที่บ้าน ทั้งคู่เริ่มเรียนรู้ว่า นอกจากรถโรงเรียนมาเวลา 8 โมงเช้านั้น ครอบครัวจะทานอาหารเวลา 6 โมงเย็น และเข้านอนเวลา 2 ทุ่ม

หลังจากนั้นพ่อซื้อนาฬิกาใหม่มาอีกเรือนหนึ่ง แต่เรือนหนึ่งเดินช้า เรือนหนึ่งเดินเร็ว เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืนนาฬิกาทั้งคู่ก็ส่งเสียงเตือนทั้งหมด 24 ครั้ง ทั้งพ่อและแม่แก้ปัญหาเรื่องนาฬิกาเดินเร็วไม่เท่ากันโดยไปซื้อนาฬิกาเพิ่มมาอีก 2 เรือน รวมเป็น 4 เรือน เมื่อถึงเวลาเที่ยงคืน นาฬิกาทั้งหมดส่งเสียงกี่ครั้งเอ่ย... ทั้งครอบครัวนอนไม่ค่อยหลับ เช้าวันถัดมาพ่อบอกว่าจะโล๊ะนาฬิกาให้เหลือเรือนเดียว

148.Penelope and the Pirates

Written and Illustrated by Jam Young

 วันอาทิตย์มาอ่านนิทานสบายๆน่ารักๆ ไม่น่าเชื่อกับจินตนาการ การผจญภัยในทะเลของผู้แต่ง โดยใช้แมวขนนิ่มๆฟูๆเป็นตัวดำเนินเรื่อง คนรักแมวไม่ควรพลาด อ่านจบสามารถสอนลูกเรื่องการโกหกเป็นสิ่งที่ไม่ดี แต่ทุกคนก็เคยโกหกกันทั้งนั้น

Penelope เป็นแมวที่อาศัยอยู่ที่ท่าเทียบเรือ มันรู้สึกว่าชีวิตไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้น จึงไปขอกัปตันลงเรือไปด้วย แต่เมื่อโดนถามว่าทำอะไรได้บ้าง มันบอกว่าจับหนู กัปตันบอกว่าในเรือไม่มีหนูให้จับ ดังนั้นมันจึงโกหกว่าที่หลังของมันมีจุดดำๆ 3 จุด และหางสีดำเป็นแผนที่นำทางไปหาทรัพย์สมบัติ กัปตันจึงให้ลงเรือ

คืนหนึ่งขณะที่ทุกคนหลับอยู่ โจรสลัดซึ่งได้ยินเรื่องราวโกหกของแมว ก็ตามมาปล้นแมวไป จนในที่สุดเรือของโจรสลัดก็แล่นไปถึงหมู่เกาะหนึ่งซึ่งมีสัญลักษณ์เหมือนกับหลังแมว พวกเค้าขุดหาสมบัติจนเจอ แล้วก็เตรียมให้แมวเดินบนกระดาน เพื่อให้ตกทะเลไป แต่ในที่สุดกัปตันและพวกก็มาช่วยเหลือ และจับกุมโจรสลัดได้

เล็กได้ประโยคใหม่ เพิ่งเคยรู้จักจากเรื่องนี้เลยค่ะ เอามาแชร์นะคะ ใครที่มีความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ รบกวนแชร์กันนิดหนึ่งนะคะ

Walk the plank = การลงโทษในเรือโดยวิธีให้ใต่กระดานตกทะเล

147.A Goose names Gilligan

By Jerry M.Hay

Illustrated by Phyllis Pollema-Cahill

 มิตรภาพระหว่างคนและสัตว์เป็นสิ่งที่สวยงามและอบอุ่น ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ชนิดใดก็เป็นเพื่อนกันได้ ตอนเลือกหนังสือดูผ่านๆแค่หน้าปกก็หยิบมาไว้รออ่านเลย เพราะชอบรูปห่านสวยๆ ที่ไม่ค่อยได้เห็นในนิทาน เมื่ออ่านจบก็กลับมาดูชื่อผู้แต่ง ก็เพิ่งรู้ว่านิทานเรื่องนี้คงเป็นเรื่องจริงของผู้แต่ง เพราะชื่อผู้แต่งเป็นชื่อเดียวกับในนิทาน

Jerry เป็นชายผู้ดูแลแม่น้ำ ผู้ซึ่งอาศัยอยู่ริมแม่น้ำ วันหนึ่งเจอห่านตัวหนึ่งติดกับดักตกปลา สายเบ็ดพันรอบตัว ทำให้ว่ายน้ำไม่ได้ ระหว่างช่วยเหลือห่านนั้นเค้าก็โดนจิก กัด ตี ทั้งเสียงร้องเตือนดังๆ แต่แล้วก็สามารถนำเบ็ดที่เกี่ยวรอบตัวห่านออกมาได้ในที่สุด

หลังจากนั้นห่านคงรู้สึกขอบคุณ ได้แวะมาเที่ยวที่บ้านของเค้าทุกวัน มิตรภาพได้เกิดขึ้น จนได้ตั้งชื่อห่านว่า Gilligan เมื่อใกล้ฤดูใบไม้ร่วงฝูงห่านมาแวะที่แม่น้ำเพื่อเตรียมบินหนีหนาวไปทางใต้ แล้ววันหนึ่งเจ้าห่านก็กล่าวคำลา Honk honk แล้วจากไปกับฝูง ฤดูใบไม้ผลิมาถึง เจ้าห่านตัวเดิมก็กลับมาและพร้อมจะมาอยู่กับเค้าในบ้านริมแม่น้ำหลังเดิม

146.A Wildlife Adventure

By Leigh Thornton

Illustrated by Caroline Crossland

 นิทานกึ่งๆเรื่องเล่าและพาให้ไปผจญภัย เรียนรูู้ธรรมชาติเล่มนี้ ถูกใจที่สุด นอกจากได้ความรู้มากมายแล้ว รูปวาดยังสวยงาม ตัวหนังสืออ่านง่าย รูปประโยคดี นำมาใช้อธิบายและคุยกับลูกได้อีกต่างหาก เล็กอ่านไป หยุดเล่าประสบการณ์ในการเจอสัตว์ต่างๆเป็นพักๆ ให้ลูกฟังอย่างเมามัน เช่นเจอปลิงดูดเลือดเกาะที่ขาตอนไปเดินป่าที่ภูกระดึงเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว โอ...นานเหลือเกิน หรือเรื่องห่วงโซ่อาหารที่เด็กควรรู้ไว้ถึงความอยู่รอด เล็กเก็บเอาประโยคที่สามารถนำไปใช้อธิบายลูกมาฝากนะคะ

Crickets make a clicking noise by rubbing their legs together.

The caterpillar will change skins four times before it is fully grown.

The frog's eggs are called spawn, the baby tadpoles grow inside.

The pond-skater is very light and can actually walk on top of the water.

Leeches slither through the mud at the very bottom.

All animals have to eat other animals or plants to stay alive and we call this a food-chain.

Woodpeckers can sometimes be heard drilling holes in trees with their beaks, looking for insects to eat.

Spiders spin a special trap, called a web, to catch flies and other insects for food.

Lichens will only live where the air is very clean.

145.Pony and Bear Are Friends

By Sigrid Heuck

 เรื่องราวของเพื่อนสนิท ที่บางครั้งอาจจะมีการทะเลาะกันบ้างเล็กๆน้อยๆ แต่ในที่สุดก็ย่อมเข้าใจกันได้ นิทานภาษาอังกฤษหัดอ่านเล่มนี้ เหมาะสำหรับเด็กหัดอ่านเนื่องจากในเนื้อเรื่องจะมีรูปเล็กๆเข้าไปแทนที่คำศัพท์บางคำ ทำให้เด็กสนุกในการอ่าน

ลูกม้าและหมีเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน ในฤดูใบไม้ร่วงหมีจะมาหาม้าที่บ้านเพื่อทานลูกพีชกัน และก็ลาเพื่อนม้าเพื่อไปจำศีลในฤดูหนาวที่กำลังจะมา ปีนี้ม้าน้อยจะไปจำศีลเป็นเพื่อนหมีด้วย ทั้งคู่เดินทางข้ามภูเขา แม่น้ำ ปราสาท จนมาถึงถ้ำในวันที่หิมะตก ทั้งคู่เล่นด้วยกันและก็เข้านอนอย่างมีความสุข

วันหนึ่งหมีบอกว่าเค้าฝันถึงนกแก้วเพื่อนเก่าผู้ซึ่งมีกงเล็บสีส้ม ม้าบอกว่าสีดำ ทั้งคู่เถียงไปมาจนโกรธ ไม่มองหน้ากัน จนในที่สุดกวางผู้เข้ามาขออาศัยหลบหนาว ถามและสังเกตว่าทั้งคู่หันหลังให้กันตลอดเวลาจะเป็นเพื่อนรักกันได้อย่างไร ทั้งคู่เริ่มหันหน้ามาคุยกัน เมื่อหิมะเริ่มละลาย ทั้งคู่กลับไปบ้านของม้าน้อย และเจอนกแก้วซึ่งมีกงเล็บสีเทา ทั้งคู่หัวเราะให้กันและกัน

144.A Windy Day

Written by Marilyn Tolhurst

Illustrated by Andrew Geeson

 ไม่เคยอ่านนิทานเรื่องไหนแล้วรู้สึกได้ว่าเย็นและลมแรง เข้าถึงชื่อเรื่องขนาดนี้มาก่อน นิทานภาษาอังกฤษเล่มนี้ใช้เทคนิคการวาดภาพที่เสมือนจริง ดูแล้วรู้สึกถึงสถานการณ์นั้นจริงๆ นอกจากนั้นภาพค่อนข้างมีรายละเอียดมาก ทำให้แม่ลูกสามารถพูดคุยกันและมองหาสิ่งที่ผู้เขียนกำลังสื่อกันอย่างสนุกสนาน คล้ายๆกับการหาสิ่งของกัน  เราใช้เวลากับหนังสือเล่มนี้นานพอสมควรตั้งแต่รูปปก ปกรอง ก็คุยกันอย่างเมามัน

เช้าวันที่อากาศดี ลมแรง ในฟาร์มแห่งหนึ่ง ลูกสาวมองออกไปนอกหน้าต่างและบอกแม่ให้มาดูเมฆรูปแกะกำลังวิ่งไปมาบนหญ้า แม่บอกให้ลูกๆช่วยกันแยกผ้าเพื่อนำไปซัก และ ตากในวันลมแรงๆแบบนี้ผ้าจะได้แห้งเร็ว ลูกสาวได้นำตุ๊กตากระต่ายไปซักด้วย

เมื่อซักเสร็จก็ได้นำไปตากบนราวตากผ้า หลังจากที่คิดว่าผ้าน่าจะแห้งแล้วแม่เดินออกมาเก็บผ้าปรากฎว่าไม่มีผ้าเหลืออยู่บนราวเลย ผ้าปลิวไปมาหายไปหมด เสื้อของพ่ออยู่บนต้นแอ๊ปเปิ้ล ถุงเท้าตกลงไปในสระน้ำ ตุ๊กตากระต่ายตกอยู่ในคอกหมู คงต้องซักผ้าใหม่อีกแล้ว

143.Scuff's Underground Adventure

By Mary Carey

Illustrated by Darrell Baker

การช่วยเหลือเพื่อนเป็นสิ่งที่ดีถ้าเราสามารถทำได้ และไม่เกินความสามารถของเรา หนังสือนิทานภาษาอังกฤษเรื่องนี้ได้แสดงถึงความกล้าหาญที่จะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อเพื่อนทั้งๆที่ก็กลัวบ้าง แต่ในที่สุดทุกอย่างก็ผ่านไปได้ด้วยดี

Scuffy เป็นเรือลากจูงขนาดเล็กที่ยังเด็ก ยังรู้สึกว่ากลัวและเหงาเมื่อต้องอยู่คนเดียวในทะเล วันหนึ่งเพื่อนๆต้องการความช่วยเหลือจากเค้า เนื่องจากบ่อน้ำในเมืองแห้งอย่างรวดเร็ว เพื่อนๆอยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกเค้ารู้สึกกลัวความมืดแต่ก็ได้เปิดไฟและไล่ความกลัวในจิตใจ จนเค้ามาเจอตัวตุ่นกำลังขุดดินอยู่ข้างใน 

เค้าพูดและชักชวนตัวตุ่นให้ไปขุดดินที่อื่น ทั้งหมดนั่งรถไฟชมเมือง ตัวตุ่นตัดสินใจเปลี่ยนที่ขุดดินมาอยู่ในเมืองแทน

142.ห้องภาษาอังกฤษ www.2pasa.com

ย้อนไปเมื่อ 5 ปี ที่แล้วเล็กเริ่มพูดภาษาอังกฤษกับลูก บ้านเราเริ่มต้นผิดๆถูกๆ ปนเปกันไปพร้อมกับความไม่แน่ใจว่าจะไปรอด สิ่งหนึ่งที่ช่วยพยุงและต่อลมหายใจของบ้านเราคือ เวป "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้" www.2pasa.com ที่นั่นเป็นที่รวมตัวของเหล่าแม่ๆที่กำลังมีความคิดเดียวกัน ที่ต้องการมอบของขวัญด้านภาษาให้กับลูก เพื่อเป็นความสามารถพิเศษติดตัวเค้าไปเมื่อโตขึ้น โดยเฉพาะห้องภาษาอังกฤษ ที่เป็นแหล่งความรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เกิดจาก "คนถามที่ไม่รู้" และ "คนตอบที่รู้มากกว่า" แสดงความเอื้ออาทร แบ่งปัน แชร์ความรู้ ประสบการณ์ ความคิดเห็น จนได้คำตอบที่ชัดเจนที่สุด

ในฐานะของ "คนถาม"  มือวางอันดับหนึ่งเมื่อ 5 ปีที่แล้วนั้น อยากบอกความในใจและความรู้สึกเมื่อถามคำถามไปว่าประโยคแบบนี้ต้องพูดว่าอย่างไร แล้วได้รับคำตอบมา คือ "รู้สึกดีใจ" และ "ตื้นตันใจ" ว่ามีคนช่วยแล้ว ทั้งๆที่ไม่รู้จักกันมาก่อน แต่เค้ามาช่วย ทำให้เรารู้สึกดีกับที่นี่มาก ทุกคนที่เข้ามา แต่ละคนก็จะมีมุมมองการใช้ภาษาที่แตกต่างกัน เพราะว่าภาษาไม่คงที่ สามารถปรับเปลี่ยนการใช้ได้ตลอดเวลา ยิ่งคนเยอะ ยิ่งมีมุมมองที่ต่างกันไป จะได้คำตอบที่ดีที่สุด

ขณะนี้จะเห็นว่าเล็กได้เข้าไปถามคำถามน้อยลงมากๆ และก็มีคนใหม่ๆผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนเข้ามาถามคำถามในห้องภาษาอังกฤษหลากหลายคน ส่วนคนตอบ (ครูอาจารย์ของพวกเรา) ก็หมุนเวียนกันไปแล้วแต่เวลาที่เอื้ออำนวย อยากจะบอกว่าไม่ใช่ว่าเก่งแล้วเลยไม่ถามแล้ว แต่รู้สึกว่าเรามีประสบการณ์มากขึ้นในการหาคำตอบจากหลากหลายทาง เช่น เมื่อเล็กมีคำถามเกิดขึ้นว่า

1.อยากพูดคำภาษาไทยคำนี้ จะพูดอย่างไรเป็นภาษาอังกฤษ
-เล็กจะเปิด Dictionary ออนไลน์ไทย-อังกฤษ ก่อนเป็นอันดับแรก จะได้เห็นทั้งประเภทของคำ , ตัวอย่างประโยคสั้นๆ
-เปิด Dictionary ออนไลน์ อังกฤษ-อังกฤษ เพื่อฟังการออกเสียงคำนั้นๆ และได้เห็นตัวอย่างประโยคการใช้ที่มากขึ้น

2.อยากรู้ว่าทั้งประโยคออกเสียงอย่างไร
เล็กจะเข้าไป http://text-to-speech.imtranslator.net/ วางประโยคไว้แล้วกด "Say it"

3.อยากรู้ว่าสถานการณ์นี้ควรใช้อย่างไร
เล็กจะเข้าที่ www.2pasa.com ด้านบนมุมขวา จะมีแว่นขยาย ช่องที่เขียนว่า Search Social Network
เล็กพิมพ์คำที่ต้องการสั้นๆ เช่น ได้เปรียบ , พิรุธ, แกล้ง, ทางแก้ไข จะมีกระทู้เดิมๆที่มีคนเคยถามแล้วมาให้อ่านมากมาย กรณีที่หาไม่เจอก็เข้าไปตั้งกระทู้ใหม่

4.ตั้งกระทู้ใหม่ในห้องภาษาอังกฤษ
ควรตั้งหัวข้อให้สั้น กระชับ เป็นคำ เพื่อว่าต่อไปคนอื่นจะได้หาเจอ อย่าตั้งว่า "ช่วยหน่อยค่ะ" ไม่นานจะมีผู้รู้มาช่วยตอบ

5.หลังจากได้ประโยคที่ต้องการแล้ว
ก็นำไปพูดกับลูก ครั้งแรกอาจจะจำไม่ได้
ต้องกลับมาดูโพย จะพูดอีก จำไม่ได้อีก
แนะนำให้พูดกับตัวเองประมาณ 10 รอบก่อน
การดูบ่อยๆจะฝึกสมองให้จำได้ดีขึ้น

6.การฝึกแบบนี้เป็นประจำทำให้เกิดความเคยชิน
และติดเป็นนิสัย ต้องพยายามฝึกและพูดกับลูก
อย่างสม่ำเสมอ การดูการ์ตูนแล้ว
นำประโยคมาพูดกับลูกก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยได้
จะได้ตัวอย่างประโยคที่เค้าใช้กันจริงๆ

การเรียนภาษาอังกฤษสมัยนี้ไม่ยากเหมือนเดิมแล้ว เพราะว่ามีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยมากขึ้น ทุกคนสามารถเรียนได้ ไม่ว่าจะรวยล้นฟ้า หรือ จนติดดิน ขึ้นอยู่กับว่าเราจะพยายามมากพอหรือไม่ มีเวลาจดจ่อกับสิ่งที่มุ่งมั่นตั้งใจแค่ไหน ถ้าบอกว่าไม่ค่อยมีเวลา นั่นแหละคือยังพอมีอยู่บ้างค่ะ ใช้เวลาที่น้อยนิดแต่ละวันสะสมหาความรู้ไปเรื่อยๆ ก็ยังดีกว่ารอให้พร้อมแล้วค่อยทำ เพราะว่าจะไม่มีวันพร้อมสำหรับเราเลย เริ่มเลย ทำเลย วันนี้นะคะ

141.ชุด An I Can Read Book

Weekly Reader Books

 วันนี้มาดูหนังสือหัดอ่านง่ายๆสำหรับเด็กที่เริ่มหัดอ่านกันค่ะ ใช้คำศัพท์ไม่มาก และเป็นคำศัพท์ที่เจอบ่อย เอามาผูกเรื่องได้น่ารัก แม้ว่าเรื่องจะยาวนิดหนึ่งแต่อ่านแล้วรู้สึกสบาย เมื่ออ่านบ่อยๆ เด็กจะสามารถจำคำศัพท์นั้นๆได้ง่ายดาย และจะเริ่มอ่านคล่องขึ้น

1.Small Pig

By Arnold Lobel

ลูกหมูเป็นสัตว์ที่รักความสกปรก วันหนึ่งภรรยาของชาวนาทำความสะอาดบ้าน ฟาร์ม และคอกหมู ทำให้หมูไม่พอใจเพราะว่าสะอาดเกินไป มันจึงหนีออกจากบ้าน ระหว่างทางแวะตามบึงน้ำแต่เจอสัตว์ต่างๆอาศัยอยู่ก่อนแล้ว มันจึงเดินต่อไปจึงถึงในเมือง เห็นอะไรนุ่มๆแฉะๆสีดำๆบนถนนจึงลงนั่งแช่อย่างสบาย แต่สักพักกลับดึงตัวไม่ออก ชาวนาและภรรยารีบตามกู้ภัยมาช่วย และสัญญาว่าจะไม่ทำความสะอาดคอกหมูอีกเลย

2.Hester the Jester

By Ben Shecter

Hester เป็นลูกสาวของตัวตลกเธออยากทำอาชีพเหมือนพ่อ แต่ถูกห้ามเพราะว่าเป็นผู้หญิง วันหนึ่งพ่อถูกเรียกไปช่วยทำให้พระราชาหัวเราะ แต่ไม่สามารถทำได้ เธออาสา แล้วเธอก็ทำได้ เธอบอกพระราชาว่าไม่อยากเป็นตัวตลก เธออยากเป็นพระราชา แล้วเธอก็ได้เป็น แต่ก็ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ดี เธอจึงกลับเป็นลูกสาวตัวเล็กๆที่น่ารักของแม่ในที่สุด

140.Happy Healthy Pooh Book

Favorite Golden Look-Look Books

นิทานพูห์ เรื่องนี้มีสาระ น่าสนใจ เกี่ยวกับการสอนเด็กๆเรื่องสุขภาพ การทานอาหารที่มีประโยชน์ เรื่องต่างๆในชีวิตประจำวัน ความรอบคอบ การมีน้ำใจนักกีฬา คือทุกอย่างที่ทำแล้วสุขภาพดีและมีความสุขตามชื่อเรื่องเลยค่ะ

การทานของหวานก่อนนอนอาจทำให้
1.ฝันร้าย
2.ปวดท้อง

อาหารเช้าที่ดีประกอบด้วย
1.น้ำส้ม
2.ซีเรียล
3.ขนมปังปิ้ง
4.นมและไข่
5.ผลไม้




ก่อนออกจากบ้านในตอนเช้าให้สำรวจให้เรียบร้อย
1.ติดกระดุมครบหรือยัง
2.ผูกเชือกรองเท้าหรือยัง
3.แต่งตัวเรียบร้อยหรือยัง

สุดท้ายมีข้อสรุป (เอาไปสอนลูกกันได้เลยค่ะ)
1.Eat properly, three good meals a day.
2.Be neat and tidy
3.ฺBrush your teeth and take your bath.
4.Get plenty of exercise in the fresh air and sunshine.
5.Be a good sport and always be nice to to others.
6.Cheerfulness is important.
7.Get plenty of rest and sleep.

139.Pete's A Pizza

By William Steig

 วันนี้ขอรีวิวนิทานน่ารัก สนุกๆ ให้ได้หัวเราะเบาๆ กับการเล่นของพ่อลูกในช่วงวันฝนตก ตอนแรกเห็นหน้ารูปกลมๆของเด็กผู้ชายคนนี้ เล็กยังไม่สามารถเดาเรื่องราวได้เลย แต่พอเห็นชื่อผู้แต่งก็รีบหยิบมาอ่านทันที William Steig ผู้แต่งหนังสือ Sylvester,the Magic Pebble ที่เรียกน้ำตาของใครได้มากมาย มาครั้งนี้เรียกเสียงหัวเราะได้เป็นอย่างดี ทั้งยังแสดงถึงความอบอุ่นในการเล่นกันในบ้านด้วย

วันนี้ Pete เด็กชายไม่สามารถออกไปเล่นข้างนอกได้ เนื่องจากฝนตก เค้าเริ่มอารมณ์ไม่ดี คุณพ่อของเค้าก็เลยอุ้มเค้าเล่นเป็นพิซซ่า โดยวางเค้าลงบนโต๊ะ เด็กชายทำตัวแข็ง พ่อนวดซ้าย นวดขวา ยืดขา โยนขึ้นลง ใส่น้ำมัน ใส่แป้ง ใส่มะเขือเทศ ใส่ชีส

เมื่อถูกจั๊กจี้ เด็กชายหัวเราะชอบใจ พ่อทำท่าดุบอกว่า เป็นพิซซ่าไม่ควรหัวเราะ เด็กชายเถียงว่าคนทำพิซซ่าก็ไม่ควรจั๊กกี้พิิซซ่า แล้วก็นำพิซซ่าไปอบ เมื่อสุกแล้ว พ่อบอกว่าถึงเวลาหั่นแบ่งพิซซ่าแล้ว แต่ว่าพิซซ่าวิ่งหนีไปก่อน พ่อลูกวิ่งไล่จับกัน จนฝนหยุด พิซซ่าจึงออกไปเล่นข้างนอก

138.The Ant and the Elephant

Written and Illustrated by Bill Peet

นิทานเล่มนี้สอนเกี่ยวกับการมีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน โดยให้ช้างเป็นสัญลักษณ์ของความใจดีมีน้ำใจ ส่วนมดแสดงในส่วนของการตอบแทนบุญคุณ และความร่วมมือร่วมใจของกลุ่มเพื่อนที่สามารถแสดงพลังออกมาได้มากกว่าที่คิด ส่วนสัตว์อื่นๆผู้เขียนหักมุมให้เด็กๆรู้ว่าในโลกของความจริงสิ่งมีชีวิตบางอย่างก็ไม่ได้ใจดีเหมือนกันหมด ซึ่งตอนแรกเล็กเดาว่าเนื้อเรื่องน่าจะเป็นอีกแบบ แต่ออกมาแบบนี้ทำให้ได้มีเรื่องพูดคุย และวิจารณ์ ต่อยอดจินตนาการกับลูกอีกเยอะ ถึงแม้หนังสือจะหนากว่าปกอ่อนธรรมดา อ่านแล้วเหนื่อย แต่ก็คุ้มค่ะ

มดตัวน้อยเกาะอยู่ที่กิ่งไม้กลางแม่น้ำได้ร้องขอความช่วยเหลือจากเต่า ให้นำตัวเองเข้าฝั่งด้วย แต่ว่าเต่าปฎิเสธและบอกว่าถ้าคอยมาช่วยเหลือทุกคนแบบนี้ก็คงจะไม่มีเวลาให้พักผ่อน แล้วเดินจากไปหาที่นอนบนก้อนหิน ขณะที่จะปีนขึ้นไปกลับล้มหงายหลังตกลงมาอยู่บนพื้น เต่าร้องขอความช่วยเหลือจากนกเงือก แต่นกเงือกไม่ช่วย เมื่อไข่นกตกลงพื้น นกเงือกขอความช่วยเหลือจากยีราฟ แต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ เมื่อยีราฟเดินไปติดเถาวัลย์ ขอความช่วยเหลือจากสิงโต สิงโตก็ไม่ช่วย เมื่อสิงโตโดนก้อนหินทับหาง ขอให้แรดช่วย แต่แรดก็ไม่ช่วย แล้วแรดก็มีปัญหาที่ไม่สามารถเอานอออกจากตอไม้ได้ หมดหวังทันที

ขณะนั้น ช้างใหญ่ใจดีก็เดินออกมาช่วยมดออกจากกิ่งไม้โดยให้มันไต่งวงกลับมาถึงฝั่ง มดกล่าวขอบคุณ ช้างบอกว่าไม่เป็นไร ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร หลังจากนั้นสัตว์ต่างๆ คือ เต่า นกเงือก ยีราฟ สิงโต และ แรด ก็ร้องขอความช่วยเหลือจากช้างโดยไม่มีคำขอบคุณ เหมือนว่ามันคือหน้าที่ของช้างที่ต้องทำ และแล้วช้างก็เกิดเหตุตกลงไปในหุบเขาลึก ร้องขอความช่วยเหลือ แต่ว่าไม่มีใครมาช่วย เวลาผ่านไป กองทัพมด 95,000 ตัวก็มาช่วยกันแบกช้างออกจากหลุมลึก ช้างขอบคุณโดยให้มดขี่หลังกลับรัง

                                    
 

137.Willis (คนเรามีส่วนดีไม่เหมือนกัน)

By James marshall

 นิทานที่ให้ข้อคิดว่า "คนเราแต่ละคนมีสิ่งที่ตัวเองชอบ ทำได้ดี และเก่ง ไม่เหมือนกัน" ใช้พยายามดึงจุดนี้ออกมาใช้ให้เต็มที่แล้วมันจะดีเอง นิทานภาษาอังกฤษของผู้เขียนท่านนี้ ส่วนมากจะยาวนิดหนึ่งแต่เนื้อหาน่าติดตาม บางเรื่องทำให้เล็กหัวเราะถึงจินตนาการของผู้เขียน ส่วนเรื่องนี้ทำให้ได้ข้อคิดดีๆและประโยคดีๆเอาไว้สอนลูกเลย

Everyone is good for something.

You will always be good at what you like to do most.

Willis เจ้าจระเข้ร้องไห้เศร้าเนื่องจากต้องการแว่นกันแดดเพื่อมามองสิ่งสวยๆงามๆบนชายหาด แต่ว่าไม่มีเงินซื้อ เพื่อนๆของเค้าได้แก่ นก งู และกุ้ง ช่วยกันคิดว่าจะหางานทำเพื่อจะได้เงินมาซื้อของ จึงไปทำงานต่างๆ เช่น ทาสีบ้าน แต่ว่าเจ้าของบ้านไม่ได้อนุญาต จึงไม่ได้เงิน, ไปสมัครเป็นไลฟ์การ์ด แต่ว่าไม่มีใครว่ายน้ำเป็น จึงไม่สามารถทำได้, ทำงานในร้านลูกอมรสถั่ว แต่แอบทานขนม จึงถูกไล่ออก

พวกเค้าท้อ จึงพูดว่า 

We're just a bunch of good-for-nothings 

แต่กุ้งเถียงว่าทุกคนจะมีส่วนดีสำหรับบางสิ่งบางอย่าง และจะดีก็ต่อเมื่อเราชอบที่จะทำมัน จากนั้นทุกคนก็หาว่าตัวเองชอบทำอะไรมากที่สุด ได้ข้อสรุปว่าจะจัดโชว์ความสามารถพิเศษและร้องเพลง ในที่สุดพวกเค้าสามารถหาเงินได้มากพอที่จะซื้อแว่นกันแดดได้ถึง 4 อัน

136.Feeling Angry

By Joy Berry

 ใครที่ชื่นชอบผลงานของ Joy Berry ไม่ควรพลาดนิทานภาษาอังกฤษเล่มนี้ ปกติที่เล็กเคยเจอหนังสือของเธอจะเป็นแนวตัวหนังสือเยอะ เน้นให้ผู้ปกครองอ่านให้ลูกฟัง ถ้าเด็กโตนิดหนึ่งสามารถนั่งอ่านเองได้เนื่องจากใช้คำง่าย ภาพแนวการ์ตูน และค่อนข้างหนา แต่เล่มนี้มาเป็นแนวหนังสือปกอ่อนบางๆ รูปสีสวย สดใส ไม่หนามาก แต่ไม่ทิ้งแนวการสอนเรื่องต่างๆให้กับเด็ก อ่านแล้วไม่ผิดหวังค่ะ เล็กให้ลูกอ่านเล่มนี้ให้ฟัง เพื่อให้เค้าเข้าใจความรู้สึกโกรธที่เค้าและแม่ก็มีอยู่บ่อยๆว่าเหมือนกันกับในหนังสือหรือไม่

ความรู้สึกโกรธเกิดจากอะไรได้บ้าง
1.เมื่อโดนคนอื่นเลือกดูรายการทีวีตัดหน้าตัวเอง
2.เมื่อโดนเพื่อนแกล้ง
3.น้องชายหยิบของของเธอไปโดยเธอยังไม่ได้อนุญาต
4.เมื่อของที่ถูกยืมไปเสียหาย แตก

เมื่อรู้สึกโกรธแล้ว เราอาจจะทำสิ่งที่เราไม่ควรทำ
1.ให้หลีกเลี่ยงการทำลายสิ่งของ เมื่อเราโกรธ
2.อย่าทำสิ่งที่จะทำให้เราเจ็บ เช่นเตะกล่อง
3.อย่าทำร้ายคนอื่น
4.พยายามใจเย็น นับ 1-10
5.ให้พูดกับคนที่ทำให้เราโกรธ
6.ถ้ายังไม่หายให้ ให้ร้องไห้ หรือกระโดดขึ้นลงในห้อง

135.ชุดนิทาน Jogs for Health

By Richard Hefter

นิทานภาษาอังกฤษส่งเสริมการออกกำลังกายและการนับจำนวนที่ไม่น่าเบื่อทั้งสองเล่มนี้ ดูแหวกแนวดีก็เลยนำมารีวิวค่ะ ทั้งยังสอนด้วยว่าควรทำอะไรแต่พอดี ถ้ามากไปแทนที่จะดีกลับเป็นผลเสีย และเล็กยังสามารถนำนิทานเรื่องนี้สอนเรื่องทิศทางให้ลูกอีกด้วย

1.Hippo Jogs For Health

เจ้าฮิปโปเป็นสัตว์ที่ชอบทำอะไรเกี่ยวกับสุขภาพ วันนี้ตื่นแต่เช้าออกไปวิ่งรอบๆ เจอเพื่อนห่านกำลังนอนอยู่ที่เปลญวนจึงทักทายและชักชวนให้เจ้าห่านออกมาวิ่งด้วยกัน แต่เจ้าห่านปฏิเสธ วิ่งต่อไปเจอเพื่อนอีกหลายตัว แต่ทุกตัวก็ปฏิเสธ เมื่อเจออูฐทักว่าดูหน้าตาฮิปโปไม่เหมือนคนสุขภาพดีเลย ฮิปโปจึงสารภาพว่าวิ่งมาไม่หยุด 3 ชั่วโมงครึ่งแล้ว และยังวิ่งต่อไปในที่สุดก็ล้มลงเพราะไม่ไหว

2.Counting book

หนังสือนับเลขเรื่องนี้ ดูไม่ง่ายเหมือนหนังสือทั่วไป เนื่องจากใส่ภาพที่ชวนค้นหา คล้ายๆกับฝึกการเล่น I-Spy และยังย้ำถึงจำนวนที่ผ่านมาแล้วด้วย ให้เด็กๆได้ใช้สายตามองหาสิ่งของตามจำนวนนั้นๆ

134.Early Bird On Sesame Street

By Linda Hayward

Illustrated by Tome Leigh

 การออกสำรวจสิ่งต่างๆรอบที่อยู่อาศัยในตอนเช้าตรู่ ว่ามีใครทำอะไร ที่ไหน น่าจะเป็นประสบการณ์แปลกใหม่สำหรับเด็กๆ นิทานภาษาอังกฤษเรื่องนี้มาแนวแปลกกว่าเรื่องอื่น ชี้ให้เด็กๆเห็นถึงอาชีพต่างๆที่ต้องทำงานตอนเช้าตรู่ โดยใช้ Big Bird ซึ่งเป็นนก ที่ปกติมักจะมีนิสัยตื่นแต่เช้า มาดำเนินเรื่อง

เช้าวันหนึ่ง Big Bird ตื่นแต่เช้าตรู่ เพื่อนทุกคนยังไม่มีใครตื่น มันเดินหาคนเล่นด้วยทั่วๆ ไปถึงร้านเบเกอร์รี่ เจอคนทำขนมปังกำลังยุ่งอยู่จึงเดินต่อไปถึงตลาด พ่อค้ากำลังนำผักและผลไม้ออกจากรถบรรทุก หลังจากนั้นก็เดินไปเจอ สถานีดับเพลิง สถานีตำรวจ ร้านขายหนังสือพิมพ์ ร้านขายนาฬิกา จนรู้ว่า 7 โมงแล้ว จึงพูดขึ้นว่า

That's the time I usually get up in the morning.

I must be an early bird today.

Big Bird เดินกลับบ้านด้วยความเหนื่อย และจะงีบหลับซักหน่อย ขณะเดียวกันเพื่อนๆของเค้าเริ่มที่จะตื่นแล้ว ก็จัดเตียง แปรงฟัน อ่านหนังสือพิมพ์ ทานอาหารเช้ากัน