วันพุธที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2557

95.Danny and the Dinosaur

By Syd Hoff
เมื่อสองอาทิตย์ก่อนเพิ่งรีิวิวนิทานภาษาอังกฤษของ Syd Hoff ไปเล่มหนึ่ง (ลำดับที่ 76) วันนี้ก็เริ่มรู้สึกคุ้นเคยกับเพื่อนไดโนเสาร์ตัวนี้แล้ว เนื่องจากเอกลักษณ์การวาดรูปที่ดูเรียบๆ และใช้คำที่อ่านง่ายจึงรู้สึกเหมือนเราเป็นเพื่อนกับไดโนเสาร์ตัวนี้เอง

Danny เป็นเด็กที่รักไดโนเสาร์มาก วันหนึ่งเค้าไปพิพิธภัณฑ์แล้วได้รู้จักกับไดโนเสาร์ในนั้น จึงชวนกันออกมาเที่ยวเล่นข้างนอก ทั้งคู่สนุกกันมาก พากันไปเที่ยวดูการแข่งเบสบอล ไปสวนสัตว์

และเล่นกับเพื่อนๆของ Danny 
ตกเย็นไดโนเสาร์บอกลาเค้าและกลับไปพิพิธภัณฑ์ตามเดิม

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

94.Bicycle For Sale

By Dan Yaccarino
Illustrated by Antoine Guilbaud
 บ่อยครั้งไหมที่เด็กๆขอซื้อของใหม่ทั้งที่ของชิ้นเก่ายังใช้ได้อยู่ แล้วเราผู้เป็นพ่อแม่ซื้อให้หรือไม่ เพราะอะไร การหัดให้เด็กๆได้รู้จักคุณค่าของของชิ้นหนึ่งและใช้มันจนหมด หรือเก่า แล้วนำมาซ่อมแซม ปรับปรุง มันก็สามารถกลายเป็นของใหม่และใช้ต่อไปได้อีกนานเหมือนกัน นิทานภาษาอังกฤษเล่มนี้สอนให้เด็กๆรู้จักการซ่อมแซม ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง และใช้ของที่มีอยู่ให้ได้ประโยชน์สูงสุด

Oswald เจ้าปลาหมึก เห็นจักรยานสีแดงคันใหม่ที่โชว์อยู่ในร้านแล้วอยากได้มาก เค้าจึงมีความคิดว่าควรขายจักรยานเก่าแล้วมาซื้อคันใหม่ดีกว่า เนื่องจากคันที่ใช้อยู่นี้ สีลอก ที่นั่งขาด ยางเก่ามาก โซ่ขึ้นสนิม แตรก็พัง เค้าจึงติดป้ายประกาศขาย

หลังจากนั้นเพื่อนหลายคนแวะมาดูจักรยาน แต่ละคนบอกว่า อยากซื้อ แต่ตรงนี้สีลอก เจ้าปลาหมึกรีบหยิบสีมาทา ตรงนั้นที่นั่งขาด เจ้าปลาหมึกรีบไปหยิบอุปกรณ์มาใส่แทน ตรงนั้นยางเก่า เจ้าปลาหมึกรีบเปลี่ยนยาง ที่โน่นโซ่ขึ้นสนิม เจ้าปลาหมึกรีบเอาน้ำมันมาทาโซ่ และเปลี่ยนแตร

หลังจากนั้นเจ้าปลาหมึกขี่จักรยานไปร้าน เจอเพื่อนๆทักว่าจักรยานที่ขี่มาใหม่จังเลย เจ้าปลาหมึกบอกว่านี่คือจักรยานเก่าที่เค้าซ่อมเอง แล้วเค้าก็ภูมิใจและขี่จักรยานกลับบ้านโดยไม่ต้องซื้อใหม่อีกเลย

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

93.Caps,Hats,Socks,and Mittens

A Book about the Four Seasons
By Louise Borden
Illustrated by Lillian Hoban

การสอนลูกในเรื่องฤดูกาลที่แตกต่างกันของบ้านเรากับเมืองนอกเป็นสิ่งที่ดี เพราะว่าจะสามารถชี้ว่าแต่ละส่วนของโลกมีฤดูกาลที่ไม่เหมือนกัน บ้านเราอาจจะมีแค่ 3 ฤดู คือ ฤดูร้อน ฤดูฝน ฤดูหนาว แต่ว่าประเทศในแถบยุโรป อเมริกา หรืออื่นๆ
จะมี 4 ฤดู คือ Winter Spring Summer Fall หนังสือนิทานภาษาอังกฤษเล่มนี้ใช้การเล่นและกิจกรรมของเด็กๆเป็นการบ่งบอกฤดูกาล อ่านไปทำให้รู้ว่าเด็กๆเค้าทำอะไรกันบ้าง ตามมาค่ะ

ฤดูหนาว เล่นสไลด์ลงมาตามหิมะ

ฤดูใบไม้ผลิ ตัดหญ้าในสวน ปลูกต้นไม้ นกจะวางไข่

ฤดูร้อน ไปว่ายน้ำ

ฤดูใบไม้ร่วง มีเทศกาลฮาโลวีน


วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

92.Secret of the Magic Potion

Written by Elizabeth Bolton
Illustrated by Blanche Sims
ช่วงนี้จะเห็นเล็กหยิบเอาหนังสือหัดอ่านพวก Young Reader ออกมารีิวิวบ่อย เนื่องจากเป็นช่วงที่ลูกหัดอ่าน เมื่ออ่านไปหลายๆเล่มจึงพบว่าหนังสือพวกนี้มีเนื้อหาน่าสนใจ เหมาะแก่วัยของเด็กประถม ที่เริ่มหัดอ่านจริงๆ เพราะว่าแต่ละเล่มเนื้อหาน่าตื่นเต้น น่าติดตาม ทำให้เด็กอยากรู้ว่าหน้าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น

ป้าของ Betsy ชอบส่งของขวัญแปลกๆมาให้เธออยู่เสมอ วันที่เธออายุครบ 8 ปี คุณป้าส่งกล่องของขวัญที่มีเสื้อคลุมสีแดง หมวกทรงสูงสีแดง ที่ให้ใช้ในวันฮาโลวีน พร้อมกับซองจดหมายที่เขียนว่า PRIVATE (ทำให้ลูกได้เรียนรู้ศัพท์ใหม่ด้วย) เมื่อเธอเปิดดูพบเป็นหนังสือ How to cast spells และขวดน้ำยาเล็กๆพร้อมจดหมายที่บอกว่าเป็นน้ำยาวิเศษ และให้เธออธิษฐานอย่างเหมาะสม

เมื่อแมวของเธอไปเล่นกับตัวสกั๊งค์ในป่า ทำให้มีกลิ่นติดตัวมา เธอจึงนึกขึ้นได้ อธิษฐานและนำน้ำยาวิเศษหยดลงบนแมวของเธอ ทันใดนั้นแมวก็มีขนเป็นใบไม้สีเขียวเต็มตัว เมื่ออธิษฐานอีกแมวก็มีขนฟูฟ่องเต็มตัว เธออธิษฐานครั้งสุดท้ายและทิ้งน้ำยาลงแม่น้ำไป ทุกอย่างก็กลับมาเป็นเหมือนเดิม เธอได้ข้อสรุปให้ตัวเองดังนี้
You have to be careful when you wish for things.You may get what you want. But you may not want what you get.

วันพฤหัสบดีที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2557

91.The Littles go on a Hike

Based on the books by John Peterson
Illustrated by Jacqueline Rogers
นิทานภาษาอังกฤษเรื่องของคนตัวเล็กๆ ที่มีเนื้อหาแค่การไปหาเพื่อนที่บ้าน แต่อ่านแล้วทำให้มองเป็นภาระกิจที่ค่อนข้างใหญ่ คล้ายกับการผจญภัยที่น่าตื่นเต้นทีเดียว ซ้ำยังทำให้ระลึกถึงการมี Penpal เพื่อนที่ประเทศออสเตรเลียที่เคยเขียนจดหมายหากันเมื่อตอนเป็นเด็ก

Lucy และ Tina เป็นเพื่อนที่ไม่เคยเจอหน้ากัน ทั้งคู่ได้แต่คุยกันทางจดหมาย วันหนึ่ง Lucy บอกครอบครัวว่าอยากจะไปเยี่ยมเพื่อนคนนี้ ซึ่งบ้านอยู่ถัดจากบ้านตนเองไป 1 บล็อก คนในครอบครัวปรึกษากันให้ความคิดเห็นกัน เนื่องจากเป็นคนตัวเล็กจึงต้องระมัดระวังตัวศัตรูทั้งหนู กระรอก กระต่าย แต่ในที่สุด คุณพ่อ พี่ คุณลุงและญาติก็ร่วมกันเดินทางโดยพกพริกไทย และธนูเป็นอาวุธติดตัวไปด้วย

การเดินทางที่น่าประทับใจ ผ่านสวนดอกกุหลาบ รอบๆต้นโอ๊ค มีการปีนป่ายผนังก้อนหิน ขณะที่พวกเค้าแวะพักผ่อนตอนเที่ยง ก็มีนกสีดำตัวใหญ่เข้ามาจับพี่ชายของ Lucy ไป ทุกคนช่วยกันต่อสู้เพื่อแย่งคืนพี่ชายเธอคืนมา แล้วก็เดินทางกันต่อจนในที่สุด Lucy ก็ได้พบกับเพื่อนของเธอ


วันพุธที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2557

90.Percy The Duck

By Abigail Pizer
หนังสือนิทานปกแข็งเล่มเล็กๆที่ดูธรรมดาเล่มนี้ ได้บรรจุเรื่องราวที่สร้างกำลังใจให้ผู้อ่านไม่มากก็น้อย กับเจ้าเป็ดน้อยที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจจะบินให้ได้ แม้ว่าต้องเจอกันอุปสรรคที่บั่นทอนจิตใจแค่ไหน มันก็ไม่ย่อท้อ จนในที่สุด.....

ที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง มีเป็ดน้อยตัวหนึ่งเฝ้ามองฝูงเป็ดป่าบินลงมาที่บ่อน้ำทุกวัน มันเกิดความคิดและตัดสินใจว่าอยากจะบินให้ได้เหมือนเป็ดป่า มันเริ่มต้นโดยวิ่งเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พร้อมกับกระพือปีก จนชนกับกองยางรถยนต์ หลังจากนั้นมันก็ปีนขึ้นไปบนหลังคาห้องเก็บเครื่องมือ แล้วกระพือปีกลงมา จนตกลงไปในบ่อน้ำ

มันพยายามอีกหลายอย่าง จนได้ข้อสรุปของตัวเองว่า ที่ไม่สามารถบินได้เนื่องจากตัวหนักเกินไป มันจึงไม่ยอมกินอาหาร จนวันหนึ่งได้เวลาที่เหมาะสม เป็ดน้อยโตเพียงพอที่สามารถจะบินได้แล้ว มันภาคภูมิใจกับความพยายามของตัวเองอย่างมาก แม้ว่าจะไม่สามารถบินได้ไกลมากก็ตาม

วันอังคารที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2557

89.Bunnies' Easter Bonnet

By Nan Roloff and Amy Flynn
Illustrated by Amy Flynn

ผ่านพ้นเทศกาลวันอีสเตอร์มา 2 วันแล้ว เพ่ิ่งมานึกได้ ต้องยกความดีให้ลูกเนื่องจากเมื่อคืนเธอหยิบเล่มนี้มาให้อ่านพอดี ทำให้จำได้ว่าปีนี้วันอีสเตอร์ตรงกับวันที่ 20 เมษายน 2014  วันนี้เลยขอรีวิวย้อนหลังให้เข้ากับเทศกาลนิดหนึ่งค่ะ สามารถอ่านประวัติวันอีสเตอร์ได้ที่นี่เลยนะคะ http://www.trueplookpanya.com/true/knowledge_youtube.php?youtube_id=411

กระต่ายฝาแฝดคู่หนึ่งเห็นแผ่นป้ายประกาศการแข่งขันทำหมวกสำหรับวันอีสเตอร์ที่จะถึงนี้ ทั้งคู่จึงรีบกลับไปซื้อและเตรียมอุปกรณ์สำหรับลงแข่ง เพื่อนๆในหมู่บ้านต่างก็ลงแข่งด้วยกันทั้งสิ้น

หมูน้อยประดับหมวกเป็นผักนานาชนิด เจ้าแพะประดับหมวกเป็นสิ่งของรีไซเคิล เจ้าเป็ดทำหมวกเป็นว่าวสายยาว เจ้าแมวประดับหมวกเป็นเค้ก เมื่อถึงวันแข่งขัน กระต่ายแฝดก็มาพร้อมกับหมวกยักษ์บนรถเข็นลงเนินมา จนไม่สามารถหยุดรถได้ จนสายลมพัดพาหมวกบินขึ้นไปบนท้องฟ้า แล้วในที่สุดก็กลับลงมาอย่างปลอดภัย สุดท้ายกระต่ายแฝดชนะการแข่งขัน

เรื่องนี้เราจะเห็นความมุ่งมั่นของฝาแฝดคู่นี้ในการวางแผนการทำงาน เป็นขั้นตอน เพราะว่าเค้าต้องไปซื้อของหลายอย่าง และทำกันอย่างเป็นความลับซะด้วยค่ะ

วันจันทร์ที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2557

88.Sixth-Grade Bully

By Nancy Carlson
 นิทานภาษาอังกฤษเกี่ยวกับพวกอันธพาล ชอบรังแกเพื่อน เอาเปรียบเพื่อน มีให้เห็นอยู่เรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะว่าเมื่อเด็กเริ่มโตขึ้น นิสัย พฤติกรรม เริ่มแสดงออกมากขึ้น เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น ครอบครัวไหนอบรมลูกมาดีตั้งแต่เด็กก็มักจะเป็นเด็กดี ส่วนครอบครัวไหนไม่ค่อยมีเวลา และไม่ได้ปูพื้นฐานอารมณ์ลูกมาตั้งแต่เด็ก ก็มักจะมีพฤติกรรมไม่ดี และทั้งสองลักษณะก็มีปะปนกันอยู่ในโรงเรียนนั่นเอง

วันแรกที่ George ไปโรงเรียน ได้พบกับนักเรียนเกรด 6 จอมอันธพาล เค้าขู่เอาเงินจาก George แต่ไม่มีให้ จึงแย่งเอาอาหารกลางวันไปจนหมด พร้อมทั้งกำชับว่าพรุ่งนี้ให้หาอาหารกลางวันอร่อยกว่านี้มาด้วย เมื่อถึงเวลาอาหารกลางวันเค้าจึงไม่มีอาหารรับประทาน เพื่อนจึงแบ่งให้

เช้าวันต่อมาก็เจออันธพาลคนเดิมแย่งเอาอาหารกลางวันไปอีก และสั่งว่าพรุ่งนี้ให้เอาคุ๊กกี้มาด้วย George เริ่มไม่ค่อยมีสมาธิในการเรียน เมื่อมีใครเรียกชื่อเค้า จะตกใจมากๆ และก็หิวมากๆด้วย จนเพื่อนที่เคยแบ่งอาหารกลางรู้ความจริง จึงช่วยหาทางแก้ไขให้ โดยชวนเค้าไปที่บ้านเพื่อทำอาหารสูตรพิเศษสำหรับเจ้าอันธพาล หนังสือจบที่เจ้าอันธพาลมาแย่งเอาอาหารกลางวันไปเท่านั้น  ทำเอาลูกถามต่อว่าจะเกิดอะไรขึ้นอีกบ้างน๊า ทิ้งให้จินตนาการค่ะ

อ่านจบแล้วนึกถึงพระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

"ในบ้านเมืองนั้น มีทั้งคนดีและคนไม่ดี
ไม่มีใครจะทำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ทั้งหมด
การทำให้บ้านเมืองมีความปรกติ สุขเรียบร้อย
จึงมิใช่การทำให้ทุกคนเป็นคนดี
หากอยู่ที่การส่งเสริมให้คนดีได้ปกครองบ้านเมือง
และควบคุมคนไม่ดีไม่ให้มีอำนาจ
ไม่ให้ก่อความเดือดร้อนวุ่นวายได้"

พระบรมราโชวาท ของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
( พิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ ครั้งที่ 6 ณ ค่ายลูกเสือวชิราวุธ อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 11 ธันวาคม 2512 )

วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

87.The Golden Snowflake

By Francoise and Frederic Joos
 นิทานภาษาอังกฤษเล่มนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ให้กำลังใจเราอย่างแนบเนียน เล็กมองว่าผู้เขียนคงต้องการชี้ให้เห็นว่า ถ้าเรามีความเชื่อ และตั้งใจทำอะไรจริงๆ อะไรที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นได้ ซึ่งเล็กชอบประโยคนี้ที่แม่ของเจ้าตุ๊กตาหิมะบอกกับเค้า
If you believe hard enough, wonderful things sometimes happen.

นานมาแล้วมีตุ๊กตาหิมะชื่อ Hector อาศัยอยู่ในเมืองแห่งความหนาวเย็น คืนวันหนึ่งแม่ได้บอกเค้าเกี่ยวกับเรื่องเกล็ดหิมะทองคำ ว่าถ้าใครได้เจอจะทำให้เป็นอมะตะ ไม่ละลาย ตลอดไป เค้าย้ำถามแม่เพื่อความมั่นใจว่าจริงหรือเปล่า แม่บอกว่าถ้าเค้าเชื่อมากพอ มันก็อาจจะจริง แล้วก็เตือนเค้าว่า อย่าอยู่ใกล้อะไรที่ร้อน มันจะทำให้เค้าละลายหายไป

เจ้าตุ๊กตาหิมะเข้าไปในป่าเพื่อบอกเพื่อนสัตว์ในป่าเกี่ยวกับเกล็ดหิมะทองคำ ทุกตัวช่วยกันหา แต่ก็ไม่เจอ จึงหยุดพักทานอาหารกลางวันด้วยกัน เจ้าตุ๊กตาหิมะเริ่มคิดฝันว่าถ้าเค้าเจอเกล็ดหิมะทองคำ เค้าก็คงสามารถดื่มช๊อคโกแลตอุ่นๆ ไปเที่ยวทะเลและทำกับข้าวกับได้เหมือนเพื่อนๆ

แต่หาเท่าไรก็ไม่พบ จนถึงเวลากลับบ้าน เพื่อนๆก็เดินมาส่งเค้า แล้วจากไป หลังจากนั้นเกิดอะไรขึ้นเอ่ย

86.รีวิวเที่ยวงสงกรานต์

วันนี้นึกครึ้มอยากเล่าเรื่องช่วงสงกรานต์ของครอบครัวเรา
ซึ่งเป็นการรวมสถานที่ท่องเที่ยวหลายๆแห่งที่เล็กและลูกได้ไปเที่ยวมาในอาทิตย์ที่ผ่านมา
เลยนำมาสรุปไว้ในช่วงสิ้นสุดสัปดาห์แห่งเทศกาลวันสงกรานต์ในวันนี้


เมื่อก่อนตอนที่ทำงานประจำ แล้วใกล้จะถึงช่วงวันหยุดยาว
จะต้องคิดวางแผนว่าจะไปเที่ยวไหนกันดี เพราะว่าไม่ค่อยได้มีวันหยุดยาว
แต่เมื่อลาออกมาทำงานที่บ้าน และได้อยู่กับลูกทุกวันที่ร้านอยู่แล้ว
การวางแผนต่างๆก็เปลี่ยนไป เราไม่ต้องไปไหนช่วงที่คนแห่กันไป
เราใช้ชีวิตอยู่บ้าน และไปเที่ยวกันใน กทม. เพื่อเรียนรู้เรื่องต่างๆ

ก่อนวันสงกรานต์เล็กน้อย เล็กได้พาลูกไปเที่ยววัดรอบเกาะกรุงรัตนโกสินทร์
แต่ก็ไม่ได้ไปหลายวัดนัก ให้ลูกเลือกเองว่าจะไปไหน
ลูกเลือกอันดับแรกเป็น "วัดสุทัศน์" ยังไม่ค่อยมีคนมาเท่าไร
ทางวัดเริ่มเตรียมทรายไว้เพื่อให้เข้ากับประเพณี "ขนทรายเข้าวัด"
พาลูกเข้าไปไหว้พระและทำบุญ สรงน้ำพระ


หลังจากนั้นเรารอรถเมล์เพื่อจะไป "วัดโพธิ์"นานมาก
ทำให้ตัดสินใจ "เิดิน" ซึ่งลูกเป็นคนแนะนำเอง
และก็ได้เดินไกลสมใจ โดยไม่บ่นซักคำ
เป็นครั้งแรกที่ลูกได้ชื่นชมพระพุทธรูปปางไสยาสน์
ปีที่แล้วที่พาลูกมามีงานรอบวัด จึงไม่ได้พาเข้ามาไหว้
ปีนี้ลูกถึงกับตะลึงว่าเป็นพระพุทธรูปที่ใหญ่มากๆ


หลังจากนั้นก็มาถึงเวลาที่ลูกรอคอย
ข้ามฝั่งไป "วัดอรุณ" เราลงเรือที่ท่าเตียน
ชำระเงิน 3 บาท เด็กอย่างเนยไปฟรีค่ะ
เดินขึ้นไปเจดีย์ขั้นแรกเพื่อชื่นชมเท่านั้น
ขึ้นต่อไปไม่ไหว สูงมากๆค่ะ


ช่วงสงกรานต์เราอยู่ร้านมีลูกค้าเข้ามาประปราย
ต้องขอขอบคุณมากจริงๆ ที่เข้ามาอุดหนุนด้วยความชุ่มฉ่ำ

ช่วงเช้าของวันที่ 15 เมย.57
ได้แอบพาลูกออกไปเที่ยว "สวนรถไฟ"
พ่อพาปั่นจักรยานรอบสวนรถไฟ
แวะที่หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ
(สวนโมกข์กรุงเทพ)


สวนผีเสื้อไม่เคยพลาดที่นี่เลยซักครั้ง
เมื่อเรามาเที่ยวสวนรถไฟ



สวนสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตต์ ที่อยู่ติดกับสวนรถไฟ
ที่นี่เล็กได้ยินคำพูดออกจากปากลูกที่น่าประทับใจ
เค้าคุยกันกับพ่อว่า
"โตขึ้นหนูจะพาพ่อกับแม่มาเที่ยวแบบนี้บ้าง"
ถือเป็นประโยคที่เล็กรับรู้ถึงความประทับใจของเค้า
เล็กถึงพยายามสร้างช่วงเวลาที่ดี ที่อบอุ่นให้เกับเค้าตอนนี้
เพื่อว่าเมื่อเค้าเติบโตขึ้นเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่
เค้าก็จะยังเก็บความทรงจำดีๆแบบนี้ไว้ตลอดไป



เมื่อวานได้โอกาสต้องออกไปทำธุระข้างนอก
ก็หนีบเอาลูกไปด้วย เพราะว่าใกล้แหล่งเรียนรู้อีกแห่ง
"พิพิธภัณฑ์ตราไปรษณียากร สามเสนใน"


อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสะพานควาย ตึกด้านใน ชั้น2
ได้ความรู้และเห็นตู้ไปรษณีย์ตู้แรกของประเทศไทย


ลูกสนุกสนานกับการเปิดดูแสตมป์ของแต่ละประเทศ
โดยต้องดึงบานเลื่อนเข้าๆ-ออกๆ หลายครั้ง
เนยชอบแสตมป์ประเทศญี่ปุ่นที่มีแสตมป์น่ารักๆมากมาย

















การพาลูกออกไปเที่ยวทำให้ได้
เรียนรู้พฤติกรรม และ นิสัย
ของเราทั้งแม่และลูกได้มากยิ่งขึ้น
เป็นการเรียนรู้ซึ่งกันและกันได้ดีที่สุด

เมื่อวานแม่ค้าร้านเบเกอร์รี่ทักว่า
ลูกสาวหน้าถอดแม่มาพิมพ์เดียวกันราวกับแกะ
และก็มีคนทักแบบนี้ทุกครั้งที่เห็นเราแม่ลูก
ลูกก็เอาหน้ามาแนบข้างๆ และบอกว่าไม่เห็นเหมือนกันเลย
เล็กบอกลูกว่า หน้าตาเหมือนแล้ว
ขอให้ช่วยก๊อปปี้พฤติกรรมของแม่ที่ดีๆไปด้วยได้ไหม
เช่น ทานเข้าให้หมดโดยเร็ว ,
ทำงานชิ้นหนึ่งๆ ให้ตั้งใจทำ ไม่ใช่ทำแบบลวกๆเพื่อให้เสร็จเร็วๆ
ส่วนพฤติกรรมของแม่ที่ไม่ดี ก็ไม่ต้องก๊อปก็ได้้จ้า

เห็นเล็กไปโน่นไปนี่บ่อย ก็คงสงสัยว่า
แล้วร้านหนังสือนี่ทำอย่างไร ปิดทุกครั้งที่ออกไปหรือเปล่า
ขอบอกว่าที่ร้านหนังสือเปิดอยู่ตลอดเวลาทำการ
จันทร์-เสาร์ เวลา 09.00-16.00น.
เพียงแต่ว่าแม่ค้าอาจจะแว๊บออกไปโน่นนี่บ้าง
ตามแต่ธุระที่ต้องไปทำ แต่ส่วนมากอยู่หน้าจอ
เพื่ออัพเดทเรื่องราวต่างๆค่ะ

วันเสาร์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2557

85.รีวิวหนังสือ Oxford

Headwork Reading Non-Fiction
ตอนที่เริ่มจะรื้อฟื้นภาษาอังกฤษของตัวเองเพื่อจะพูดภาษาอังกฤษกับลูก เล็กหาตัวช่วยหลากหลายทาง ฟังทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ อ่านทุกอย่างที่เป็นภาษาอังกฤษ ทั้งป้ายตามข้างทาง ป้ายในสถานีรถไฟฟ้า ป้ายราคาสินค้าในห้างสรรพสินค้า ใบปลิวโฆษณา ไม่เว้นแม้แต่ซื้อหนังสือต่างๆมาอ่านเพิ่มเติม

หนังสือชุดนี้เป็นหนังสือใหม่ที่ซื้อมานานหลายปีแล้ว ตั้งแต่ตอนแรกๆที่เริ่มต้น เพื่อฝึกทักษะการอ่าน ได้ชื่อว่าเป็นของ Oxford ก็เป็นที่รู้ว่ากันภาษาที่ใช้นั้นจะไม่ยาก อ่านง่าย และได้ความรู้มากมาย เวลาเลือกหนังสือสำหรับตัวเอง เล็กเลือกเรื่องที่ตัวเองสนใจ และเรื่องที่ยังไม่รู้ เพื่อเพิ่มศัพท์ต่างๆเกี่ยวกับเรื่องราวนั้นๆด้วย อีกอย่างคือ บางครั้งเราสามารถนำเอาประโยคต่างๆในหนังสือ ไปเล่าหรือพูดให้ลูกฟังได้อีกด้วย

หนังสือชุดนี้เป็นปกอ่อน 24 หน้า มี 6 เล่ม กระดาษอาร์ตอย่างดี แต่ละเล่มเป็นผู้เขียนแตกต่างกัน  บางเล่มเป็นเล่าเรื่องการผจญภัย บางเล่มคล้ายการเขียนประสบการณ์ บางเล่มมีการถามตอบ

Wild-life Films 
By Nigel Marven 
เป็นการเขียนประสบการณ์ของผู้เขียนในการทำงานกับ BBC โดยต้องเดินทางไปถ่ายทำเรื่องเกี่ยวกับสัตว์ป่า ธรรมชาติ


How to fly a Balloon 
By Myra Murby
ผู้เขียนได้รับการเทรนเป็นผู้ควบควมบอลลูน และมีบอลลูนเป็นของตัวเอง มาเล่าประสบการณ์การท่องเที่ยงโดยบอลลูน


Demolition Step by Step
By Holly Bennett
ผู้เขียนเป็นวิศกรด้านการระเบิดตึก เล่าถึงขั้นตอนและแผนการทำงานในการทำลายตึกโดยให้กระทบต่อสิ่งแวดล้อมรอบๆน้อยที่สุด


Weekend at War
By Hilda Birchall
ในวันธรรมดาผู้เขียนทำงานในโรงเรียน แต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์จะเปลี่ยนเป็นนักรบไวกิ้ง อ่านเรื่องราวของเธอผ่านไดอารี่ที่ตื่นเต้น 


ฺBehind the Scenes with a Stuntman
By Marc Cass
ติดตามเรื่องการทำงาน คำถาม-คำตอบ ของผู้เขียน ซึ่งเป็นสตันท์แมนผู้โด่งดังจากภาพยนต์หลากหลายเรื่อง เช่น Titanic, Saving Private Ryan

What's it really like to be a Footballer
By Haydn Middleton
นักเขียนผู้คร่ำหวอดในวงการลูกหนังได้สัมภาษณ์นักฟุตบอลทีมชาติอังกฤษ เรื่องต่างๆกว่าจะมาเป็นเป็นนักฟุตบอล


วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

84.Zack's Alligator

By Shirley Mozelle
Pictures by James Watts

เจอนิทานเรื่อง นี้ก็นานแล้ว แต่ไม่เคยได้หยิบมาอ่านเลย รู้ว่าเป็นกลุ่มนิทานหัดอ่านก็เลยว่าจะรอให้ลูกหยิบมาหัดอ่านเองจริงๆ แต่รอแล้วรอเล่าเรื่องนี้ก็ไม่ผ่านมือลูกเสียที วันนี้ลองหยิบมาอ่านดูแล้วก็หลงรักเจ้าจระเข้ตัวโตนี้ขึ้นมาอีกมากมาย มานั่งเสียดายว่าหนังสือในซีรีย์นี้ขายไปหมดแล้วเหลือเล่มนี้อยู่เล่มเดียว ไม่ใช่ว่าไม่อยากขาย แต่อยากอ่านก่อนนั่นเอง (อันนี้เป็นข้อดีของการเป็นแม่ค้า 55555)
อีกอันหนึ่งที่ชอบมาก คือกิจกรรม Show and Tell ของฝรั่ง ใครที่ให้ลูกเรียนโรงเรียนอินเตอร์อาจจะเจอการบ้านแบบนี้มาแล้ว คือการให้เด็กๆนำของอะไรก็ได้จากบ้านมาชิ้นหนึ่งแล้วนำมาเล่าให้เพื่อนๆที่ โรงเรียนฟังเกี่ยวกับเรื่องราวต่างๆ ความประทับใจ หรือว่าอะไรก็ได้เกี่ยวกับของชิ้นนั้น เล็กว่ากิจกรรมนี้ดีมาก ทำให้เด็กได้กล้าแสดงออก ได้คิด ได้วางแผน ปิดเทอมแบบนี้เล็กก็เลยจำลอง Show and Tell ที่บ้านให้เนยได้ลองใช้ความคิดต่างๆ ลองเล่าเกี่ยวกับสิ่งของตัวเองที่ประทับใจซะเลย

วันนี้ที่ โรงเรียนมีกิจกรรม Show and Tell เพื่อนของ Zack เริ่มโดยโชว์หุ่นยนต์ แต่ว่ามันไม่ขยับตัวเท่าไร คาดว่าแบตเตอร์รี่คงจะหมด แล้วก็ถึงคราวของ Zack เค้าโชว์พวกกุญแจรูปจระเข้ ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร เพื่อนคนที่โชว์หุ่นยนต์ก็มาแย่งไป ทำให้พวงกุญแจตกลงไปในอ่างปลา แล้วเจ้าจระเข้ก็ตัวใหญ่ขึ้น ใหญ่ขึ้น (เล็กชอบที่ผู้เขียนทำตัวหนังสือใหญ่ๆเรื่อยๆ ที่คำว่า Larger Larger and Larger)


ตอน แรกทั้งครู และเพื่อนๆในห้องยังเกร็งๆ กลัวว่าเจ้าจระเข้จะกัด แต่หลังจากคุยกันมากขึ้น ทุกคนก็เลิกกลัว ส่วนเจ้าจระเข้เล่นอย่างสนุกสนาน ทั้งวิ่งไล่จับเจ้าหุ่นยนต์ที่เริ่มเดินได้ เล่นสเก็ตบอร์ด ฟังวิทยุ โยนบอล ทานอาหารกลางวัน ปั้มรอยเท้าจระเข้กับหมึกบนกระดาษ


ซึ่ง ถึงตอนนี้เจ้าจระเข้ตัวเริ่มเล็กลงแล้วค่ะ จนในที่สุดก็เล็กลงเป็นพวงกุญแจ และบอกว่าวันนี้เล่นมามากแล้วขอพักผ่อนก่อน บอกลาทุกคน ทิ้งคำถามไว้ให้ Zack ว่า
"Will you water me again soon?"


อ่าน จบแล้วก็มานั่งคิดว่า ถ้าเราเป็นเด็กแล้วมีเพื่อนแบบนี้ก็คงสนุกสนานน่าดู ชอบที่สุดตอนที่ใช้ปั้มรอยเท้าจระเข้ มันน่ารักบอกไม่ถูก อ่านแล้วก็ยิ้มเลยค่ะ