วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2557

70.รีวิวเที่ยวเกาหลี

สวัสดีค่ะ หายไปหลายวัน กลับมาแล้วค่ะ วันนี้ขอพักรีิวิวนิทานภาษาอังกฤษ เปลี่ยนเป็นรีวิวท่องเที่ยวประเทศเกาหลีแทนนะคะ เพื่อเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าเราได้ไปเรียนรู้ประเทศเกาหลีมา

เป็นครั้งที่สองแล้วที่ได้ไปต่างประเทศฟรี เนื่องจากคุณสามีสามารถทำยอดขายจากการทำธุรกิจ "สมุนไพร พระยาทอง" ได้ถึงตามเป้า โดยทริปก่อนไปสิงคโปร์ 3 วัน ทริปนี้ไปเกาหลี 5 วัน ถือว่าเป็นทริปที่เที่ยวจริงๆ เพราะว่าได้ไปหลายที่มากๆ แล้วก็ทำให้เราได้เห็นสิ่งที่ไม่เคยได้เห็นมาก่อนในชีวิต

เิราออกเดินทางประมาณเกือบเที่ยงคืน แสงอาทิตย์ปลุกเราตื่นในเครื่องบิน ภาพพระอาทิตย์ขึ้นที่เกาหลี พร้อมกับเกร็ดน้ำแข็งที่เกาะหน้าต่าง

ไปถึงก็เริ่มเที่ยวเลยกับการปั่น Rail bike ซึ่งถือว่าเป็นการตัดกำลังกันพอตัว เรื่องจากมีระยะทาง 7 กม.ซึ่งบางช่วงต้องขึ้นเขา แต่ก็ถือว่าได้ออกกำลังกาย ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ อากาศเย็นๆ ลมแรงๆโชยประทะหน้า ได้ถ่ายวิวช่วงที่กำลังปั่นจักรยานมาให้ได้ชมกันค่ะ

หลังจากนั้นไปแวะวัดชินฮันซา ในเขตอุทยานแห่งชาติโซรัคซาน ซึ่งขึ้นชื่อว่าคล้ายๆสวิสเซอร์แลนด์  มีพระพุทธรูปเก่าแก่ใหญ่มากให้สักการะ เล็กเห็นข้างๆพระพุทธรูป จะมีให้บริจาคเงินและเขียนคำอธิษฐานลงบนแผ่นป้ายกระเบื้องด้วย เห็นคนหลายเชื้อชาติ หลายภาษามาที่นี่จริงๆค่ะ ไม่เว้นแม้แต่คนไทย เราไปถึงก็บ่ายแก่ๆแล้ว แต่อากาศก็ยังเย็นมาก ประกอบกับลมที่พัดมาทำให้หนาวๆเย็นๆ  เนื่องจากเป็นฤดูใบไม้ผลิแต่เราก็ยังคงเห็นหิมะไกลๆจากยอดเขา เมื่อเดินเข้าไปลึกขึ้นเราก็ได้เห็นหิมะครั้งแรกใกล้ๆ คล้ายๆกับเค้ากวาดหิมะมากองรวมกันที่พื้น

เริ่มเช้าวันใหม่ด้วยเสียงเปียโนไพเราะๆกับน้องเนย เมื่อคืนตอนเข้าพัก ขอเจ้าหน้าที่ผู้หญิงว่าขอเล่นเปียโนแต่เจ้าหน้าที่ไม่อนุญาต ตอนเช้าไม่ท้อถอย เห็นผู้ชายคนหนึ่งยืนอยู่หน้าเคาน์เตอร์ เล็กก็รีบเข้าไปขออนุญาต ตอนแรกเค้าอึ้งไปซักพัก เล็กบอกว่าอยากให้ลูกสาวได้ซ้อมเปียโน แล้วเค้าก็พยักหน้า สบายแล้วเรา มีเปียโนไว้ซ้อมแล้ว เพิ่งมารู้จากไกด์ทีหลังว่า ผู้ชายคนนั้นเป็นผู้จัดการโรงแรม แล้วเค้าก็ทึ่งมากที่เด็กๆสามารถเล่นเปียโนได้ขนาดนี้ (มีเพื่อนน้องเนยอีกคนหนึ่งมาเล่นสลับกัน ซึ่งเล่นเก่งมากด้วย) เค้าถึงกับเอากล้องมาถ่ายรูปไว้ด้วย

เช้านี้เราเริ่มต้นกันที่ Teddy Bear Farm เจ้าของทริปบอกว่าจะให้เวลาแค่ 30 นาทีก็พอเพราะว่าไม่มีอะไรมาก จัดไว้ในทริปเพราะแค่ต้องการเอาใจเด็กๆเท่านั้น ไปๆมาๆ ปรากฎว่าคนที่ถ่ายรูปมากและใช้เวลามากที่สุดก็คือผู้ใหญ่อย่างเราๆนี่เอง แล้วก็ดึงเวลาไปเป็นชั่วโมง

หลังจากนั้นเราไปแวะไร่สตอร์เบอร์รี่ ซึ่งให้เราชิมสตอร์เบอร์รี่ลูกใหญ่มากๆ รสชาตดี แต่เล็กว่าเนื้อสตอร์เบอร์รี่บ้านเค้ามันฟูๆ ไม่แน่นเหมือนเืมืองไทย อาจเพราะว่าอากาศที่เกาหลีเย็นมากๆ ก็เลยเป็นแบบนี้

อากาศไม่เป็นใจในวันนี้มีฝนตกพรำๆตลอดเวลา แล้วการเข้าไปเที่ยวสวนสนุก Everland ก็เลยชุ่มช่ำไปด้วย เราต้องใส่เสื้อกันฝนตลอดเวลา แต่รูปที่ออกมาก็ไม่ผิดหวัง เล็กเพิ่งได้เห็นดอกทิวลิปครั้งแรกในชีวิตที่นี่นั่นเอง

เช้าวันที่สี่เราแวะที่ Seoul Tower หลังจากลงจากรถก็เดินขึ้นทางลาดไปประมาณ 150 เมตร ไม่พลาดที่จะถ่ายรูปไ้ว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย ขากลับไม่น่าเชื่อ ได้เจอกับเพื่อนเก่าที่ไม่ได้เจอกันมาเป็น 10 ปี ที่นี่ด้วย

วันนี้เป็นวันที่โปรแกรมอัดแน่นเราจึงไปได้อีกหลายที่ Ice Museum ซึ่งเข้าไปไม่ถึง 10 นาทีก็ทำให้มือเย็นแข็งได้ง่ายๆ เนยกับพ่อเล่นสไลเดอร์กันอย่างสนุกสนานหลายรอบ

Trick Eye Museum คล้ายๆกับ Art in Paradise ที่พัทยา เป็นภาพสวยๆน่ารักๆที่เหมือนจริง สองพ่อลูกสนุนสนานกับการโพสต์ท่ากันน่าดู

The Painter โชว์ที่เล็กประทับใจที่สุด เป็นโชว์ไม่เสียง แต่สนุกและตลกมากๆ ทั้ง 4 หนุ่มมีพื้นฐานการวาดภาพระดับเซียน ที่ต้องใช้ความรวดเร็วแม่นยำ และเทคนิคซึ่งยากมากๆ นอกจากนั้นก็ยังต้องมีการเต้นประกอบอีกด้วย ใครที่ไปเกาหลี ไม่ควรพลาดค่ะ

ปิดท้ายด้วยมื้อเย็นเป็นบุตเฟต์ซีฟู้ดที่แสนจะพิเศษกับปูอลาสก้า คนที่กินคุ้มสุดน่าจะเป็นคนนี้ค่ะ

ทริปนี้เป็นทริปที่น่ารักมาก ไกด์ก็เป็นกันเองและตลกดี เพื่อนร่วมเดินทางก็สนุกสนาน ได้เรียนรู้อะไรจากคนเกาหลี เช่นเค้ามีระเบียบในการ "ต่อคิว" ทานอาหารต้อง "นำถาดไปเก็บให้ด้วย" และอีกหลายๆเรื่อง ขอบคุณสามีที่ทำให้ได้ไปเที่ยวค่ะ รอเที่ยวทริปหน้าดีกว่า.....เห็นว่าจะไปญี่ปุ่นกัน.......


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น