วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

1.Review นิทานภาษาอังกฤษ เริ่มต้นรู้จักกัน



               วันนี้ถือเป็นวันเริ่มต้นการเขียนบล็อกครั้งแรกเลยก็ว่าได้ หลังจากรีรีรอรอกันมานาน ว่าจะเขียนอะไรดี ในที่สุดก็ลงตัว ว่าเขียนเรื่องที่ตัวเองชอบดีกว่าค่ะ เรื่องอะไรน๊าที่เราชอบ อ๋อ..เรื่องหนังสือนั่นเองค่ะ แต่ไม่ใช่หนังสือตัวเองนะคะ หนังสือเด็กค่ะ เริ่มกันดีกว่า

               ปกติแล้วเป็นคนชอบอ่านหนังสืออยู่บ้างนะคะ แต่ไม่ถึงขั้นเยอะ crazy อะไรมากมาย พอมีลูกก็อยากปลูกฝังลูกให้รักการอ่านหนังสือค่ะ ก็อ่านหนังสือเล่มแรกให้เค้าฟังตอนประมาณ 5 เดือนได้มั๊งคะ
หนังสือที่ได้ฟรีมาจากโรงพยาบาล เป็นหนังสือเพลงค่ะ อ่านไปร้องไป สนุกดี ลูกก็มองตาม ยิ้ม หัวเราะ แค่นี้เราก็มีความสุขแล้วค่ะ

               พอลูกเริ่มเดินได้ เริ่มไม่ค่อยสนใจค่ะ ดูหนังสือได้แป๊ปเดียว วิ่งไปแล้ว เราก็สงสัยว่า เอ..ทำไมลูกไม่ชอบอ่านหนังสือแล้วเหรอนี่ หรือหนังสือที่เลือกมาไม่ดีพอ แอบน้อยใจนะเนี่ย  หาข้อมูลใหญ่เลยค่ะ คุณหมอบอกว่าเด็กเล็กยังไม่มีสมาธิมากพอในการทำอะไรนานๆ เด็ก 1 ขวบ นั่งทำอะไรนิ่งๆได้ 1 นาทีก็เก่งแล้ว เราก็เลยโล่งอก แต่ก็พยายามอ่านให้เค้าฟังตอนกลางคืนค่ะ

                พอมา 2 ขวบกว่า เค้าก็เริ่มชอบหยิบหนังสือมาอ่านเองค่ะ ดูรูปไปเรื่อยๆ เริ่มมีความสนใจหนังสือได้นานขึ้น ช่วงนี้เอง เล็กก็ได้มีเวลาท่องโลกอินเตอร์เนตมากขึ้นค่ะ (หลังจากห่างจากโลกปัจจุบัน มาถึง 2 ปี อิอิ มัวแต่หัวฟู เลี้ยงลูก ทั้งวัน ทั้งคืน)


              แล้วเล็กก็เจอหนังสือเล่มหนึ่งค่ะในร้านขายหนังสือออนไลน์ เล่มสีส้มๆ สะดุดตามากค่ะ ไม่ต้องคิดมากเลยค่ะซื้อทันทีค่ะ เรื่อง "เด็กสองภาษา พ่อแม่สร้างได้"  พอหนังสือมาถึงก็อ่านทันทีคืนนั้นเลยค่ะ หนังสือเล่มนี้จะว่าเป็นหนังสือมหัศจรรย์ก็ว่าได้ค่ะ ผู้เขียนใช้คำพูดง่ายๆ แต่อ่านแล้วเกิดแรงบันดาลใจอย่างยิ่งใหญ่ว่า "น่าจะทำได้" แต่ก็ยังไม่วายมีคำถามนะคะว่า คนธรรมดาอย่างเราๆ ภาษาอังกฤษแย่ๆอย่างเรา จะทำได้หรือนี่ 

           ช่วงที่เริ่มนี้ต้องมีตัวช่วยเยอะค่ะ เข้าเวปสองภาษา www.2pasa.com ดูการ์ตูนเด็กภาษาอังกฤษ,mp3,และ หนังสือการใช้ภาษาอังกฤษ ,และที่ขาดไม่ได้คือ นิทานภาษาอังกฤษ ช่วงแรกเลือกนิทานสองภาษามาอ่าน ลูกก็ดันเถียงว่านี่ภาษาไทย ทำไมต้องอ่านภาษาอังกฤษ ฟังไม่รู้เรื่อง แป่วววว.... งั้นหาหนังสือที่มีแต่ภาษาอังกฤษก็ได้ฟะ...

                ช่วงแรกอ่านนิทานภาษาอังกฤษไม่เป็นค่ะ แย่ขนาดว่าศัพท์คำนี้อ่านออกเสียงอย่างไรก็ไม่รู้ ต้องไปเปิดดิกออนไลน์ฟังเสียงคิดดูแล้วกัน เกือบทุกเล่มค่ะ อ่านไม่ลื่นค่ะ อ่านๆหยุดๆ 5555 ทำไมมันถึงน่าสมเพชขนาดนี้นะเรา ลูกไปโรงเรียน แม่นั่งอ่านนิทานเด็กภาษาอังกฤษ พร้อมกับเปิดดิก เพื่อเตรียมอ่านนิทานให้ลูกฟังคืนนี้ (ถ้าลูกเลือกเล่มอื่นมีหวังตายแน่ๆ)



               แต่เล็กมุ่งมั่นค่ะว่า "ต้องทำได้" เราก็ทำแบบนี้เรื่อยมา ยิ่งอ่านหนังสือยิ่งสนุกค่ะ หนังสือแต่ละเล่มมีเสน่ห์ค่ะ บางเล่มเป็นคำพร้องเสียง อ่านแล้วเพราะมาก  หนังสือสอนเรื่องต่างๆ ,หนังสือให้ความรู้, หนังสือเพิ่มจินตนาการ เราอ่านจนหลงเสน่ห์หนังสือเด็กค่ะ ทำให้เล็กพยายามเสาะแสวงหาหนังสือมาให้ลูกเยอะมาก ความสามารถในการอ่านของเราก็เพิ่มขึ้นตามเวลาค่ะ
     
              หลังจากนั้นเวลาก็ผ่านมา 4 ปี กว่าแล้วค่ะ น้องเนย อายุจะครบ 7 ปีในเดือนนี้ สามารถพูดภาษาอังกฤษจากความรู้สึก เป็นธรรมชาติ ในเรื่องชีวิตประจำวัน และทั่วๆไป กล้าที่จะคุยกับฝรั่ง แค่นี้ก็ดีใจแล้วค่ะ ถึงแม้ว่าน้องยังต้องปรับปรุงอีกหลายเรื่อง ก็คงต้องค่อยๆประคองกันไปค่ะ  ซึ่งเล็กจะพยายามให้เนยฝึกแสดงความคิดเห็นหนังสือแต่ละเล่ม โดยจะลงคลิปไว้สั้นๆไว้ ยังไงก็ต้องขออภัยไว้ก่อนนะคะว่าเนยอาจจะพูดผิดแกรมม่าเยอะ  และเสียงที่ออกมาก็อาจจะยังไม่ชัดพอ กำลังปรับปรุงตัวกันอยู่ค่ะ
     

             แต่ส่วนหนึ่งที่ติดตัวน้องมานานพอๆกับการสอนสองภาษา นั่นก็คือ "การอ่านนิทาน" ซึ่งเล็กปลูกฝังการอ่านกับเค้าตั้งแต่เค้าอายุไม่กี่เดือน เค้าจะผูกพันกับหนังสือมาก จะต้องอ่านหนังสือทุกคืนก่อนนอน เคยมีเหมือนกันที่วันไหนดึกมากแล้ว ขอปิดไฟนอนโดยไม่อ่านหนังสือ เค้านอนไม่หลับค่ะ กว่าจะหลับใช้เวลานานมาก วันต่อมาบ่นเป็นหมีกินผึ้งเลยค่ะ ว่านอนไม่หลับ 
             
              จะเห็นได้ว่าหนังสือมีส่วนทำให้เรามีความรู้มากขึ้น และเล็กก็เลยคิดว่าเราน่าจะสามารถ รีวิวหนังสือนิทานเด็กได้นะคะ เพราะว่าเราชอบคุยและวิจารณ์หนังสือกับลูกหลังจากที่อ่านจบ  หวังว่าการเริ่มต้นทักทายกันวันนี้ คงจะทำให้ท่านผู้อ่านได้รู้จักตัวตนของเล็กบ้างไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วเจอกันบล็อกหน้าค่ะ

               

2 ความคิดเห็น:

  1. ว้าวๆๆ เพื่อนเราไม่ธรรมดาแหะ จะติดตามผลงานเรื่อยๆนะจ๊ะ

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ขอบใจมากจ้า พยายามจะเขียนให้ได้ทุกวันเลยนะ

      ลบ