วันนี้ครบ 2 เดือนพอดิบพอดี ที่เนยหายป่วยจาก ไซนัสอักเสบ แม้ว่าไซนัสอักเสบจะไม่ใช่โรคร้ายแรงถึงชีวิต แต่เป็นแล้ว สร้างความกังวลใจให้กับคนเป็นแม่จริงๆ เพราะว่าเนยไม่เคยป่วยยาวนานขนาดนี้มาก่อนในชีวิต เพราะอะไร? สภาพอากาศ? ฝุ่นพิษ PM 2.5? ร่างกายลูกอ่อนแอพอดี? คิดว่าคงต้องเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เผื่อว่าเป็นประโยชน์กับคนอื่นๆค่ะ
ปกติแล้วเนยเป็นเด็กที่เรียกว่าค่อนข้างแข็งแรงนะ ตั้งแต่เกิดจนอายุ 12 ปี เคย admit โรงพยาบาลแค่ครั้งเดียวตอน 10 เดือน ตอนเรียนอนุบาลป่วยบ่อยหน่อย พอขึ้นประถมก็ป่วยไม่มาก เข้าโรงพยาบาลหาหมอแค่ปีละ 1-2 ครั้งเท่านั้น เป็นพวกไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่ บางปีก็ไม่ต้องไปโรงพยาบาล ก็เลยไม่มีหมอประจำตัว (ไม่รู้ว่าดีหรือไม่ดี)
แต่เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา เธอเริ่มไอแห้งๆ ไม่มีอาการอย่างอื่น ไม่ตัวร้อน ไม่มีน้ำมูก ไม่เจ็บคอ เล็กก็เลยให้กินยาแก้ไอธรรมดา กินไป 1 อาทิตย์ไม่ดีขึ้น ก็เปลี่ยนยาตัวอื่นก็ยังไม่ดีขึ้น
สัญญาณที่เริ่มรู้สึกว่ามีปัญหาแล้วก็คือ เสียงเปลี่ยนไป เสียงเหมือนคนเป็นหวัด (ทั้งๆ ที่ไม่มีน้ำมูก ไม่ตัวร้อน) ก็เลยพาไปคลินิค ที่คล้ายเป็นโรงพยาบาล แต่หมอตรวจดูแล้วก็ไม่เจออะไรจริงๆ เสมหะก็ไม่มี น้ำมูกก็ไม่มี ได้ยาภูมิแพ้มา เป็นตัวละลายเสมหะเม็ดฟู่ กับ Singulair
กินไปอีก 5 วันก็ไม่ดีขึ้น เริ่มไอหนักแล้วค่ะคราวนี้ นอนกันไม่ได้เลย ต้องตื่นมาไอเที่ยงคืน ตีหนึ่ง โคก โคก ไอจนเหนื่อย ไม่ได้หลับนอน ตอนกลางวันก็ไอ เริ่มมีน้ำมูกแล้ว ก็เลยไปโรงพยาบาลใหญ่ชื่อดังแถวบ้าน ระบุเจาะจงเลยค่ะขอพบหมอ ENT คิดว่าลูกอาจจะเป็นไซนัสแล้วค่ะ หมอตรวจดูก็บอกว่าเป็นไซนัสอักเสบจริงๆ อยู่ตรงโพรงข้างๆ จมูก 2 ข้าง ให้ยามากินรวมๆ ประมาณ 8 ตัว ยาพ่นอีก 1 ตัว ยาแก้อักเสบที่ใช้คือ Augmentin 1 กรัม กินไป 3 วันก็ไม่ดีขึ้น 5 วันไม่ดีขึ้น ไอไม่หยุด พอครบ 7 วัน ไปหาหมอ
หมอบอกว่าแปลกใจจังทำไมไม่หาย? เคยแอบไปซ้ื้อยาแก้อักเสบกินเองแล้วกินไม่ครบไหม แอบคิดในใจ...แหม..หมอ...ใครจะกล้าล่ะคะ นี่ลูกนะ แม่คนไหนก็ไม่กล้าซื้อให้ลูกกินเองหรอกค่ะ
ก็เปลี่ยนยามาเป็น Meiact 100 mg เช้า กลางวัน เย็น กินไปก็ไม่ดีขึ้น ล้างจมูกทุกวัน น้ำมูกออกมาเป็นสีเขียว บางวันมีเลือดออกมาด้วย มารู้อีกทีว่าเภสัชที่โรงพยาบาลชื่อดัง หยิบยาผิดให้มาเป็น Meiact 200 mg ก็ตอนที่กินไปแล้ว 4 วัน นี่ลูกฉันกินยา Over Dose ไปเท่าไรแล้วเนี่ย? โทรไปถามก็ได้รับคำขอโทษเล็กๆ น้อยๆ นี่ขนาดกินยา over dose ก็ยังไม่หาย อยากจะให้หมอเปลี่ยนยา แต่ก็ยังไม่ถึงวันนัด หมอให้ลดยาลงเท่านั้นเอง
รอจนครบ 7 วัน ไปหาหมอ ลูกยังไออยู่ แต่ไอน้อยลง ในใจคิดว่าลูก "ยังไม่หายชัวร์ๆ" แต่หมอส่องดูแล้ว บอกว่าหายแล้ว เอ๋????? ไซนัสอาการดีขึ้นแล้ว แต่ฟังปอดแล้วมีเสียงวี๊ดๆๆๆ ส่งไปพบหมอเด็กที่เชี่ยวชาญเรื่องปอด อ้าว??? คุณหมอคะ ยังไออยู่เลย สรุปหายแล้วหรอคะ? ลองไปพบหมอเด็กดูนะคะ ว่าเป็นหอบหืดหรือเปล่า ถึงยังไออยู่..
ไปหาหมอเด็กผู้เชี่ยวชาญเรื่องภูมิแพ้ ก็สั่งพ่นยา ก็ไม่ดีขึ้น สั่งเอ็กซเรย์ปอด ก็พบกว่าปกติ สรุปว่าเป็นหลอดลมอักเสบ หลอดลมตีบ ก็สั่งยาขยายหลอดลมให้อีก คราวนี้ไม่ต้องกินแก้อักเสบแล้ว เพราะเค้าบอกว่ากินครบ 2 อาทิตย์แล้ว ไม่ควรกินอีก???
กินยา 7 ตัวสลับกันไป ไอ้ตัวขยายหลอดลม Meptin นี่น่ากลัวจริงๆ จะอาเจียน เวียนหัว หน้าซีด ตัวสั่นไปทั้งตัว ทนกินยาไปได้อีก 1 อาทิตย์ ได้เวลานัดอีกแล้ว ไม่ไปแล้ว......ไม่ได้ช่วยอะไรเลย เปลี่ยน..เปลี่ยน..เปลี่ยนหมอ..เปลี่ยนที่..
พ่อของเพื่อนเนยแนะนำคุณหมอภูมิแพ้ ชื่อคุณหมออิสรา ไปถึงเล่าให้ฟังว่า ป่วยมา 47 วันแล้วค่ะ กินอะไรมาบ้าง หมอบอกว่า ให้กิน Cravit ตัวเดียว ยาอย่างอื่นอีก 7-8 ตัว ไม่ต้องกิน เหลือไว้แค่ Zyrtec กับ Singulair ก็พอ (ซึ่งมีอยู่แล้ว ไม่ต้องซื้อเพิ่ม)
เอ่อ...กินยามาเยอะก็ไม่หาย คุณหมอจะจ่ายยาตัวเดียวแล้วจะเอาอยู่หรอคะ? ถามออกไปจนหมอหัวเราะ "อยู่ซิ" เราต้องแก้ที่ต้นเหตุ เพราะว่าไซนัสยังไม่หาย อ้าว? ทำไมหมอที่รพ.ดังบอกว่าดีขึ้นแล้ว? หมอบอกว่ายาที่จะรักษาได้ผลนี่ กินไป 3 วันต้องดีขึ้น 10 วันต้องหายสนิท ถ้า3 วันยังไม่ดีขึ้น ต้องเปลี่ยนยาทันทีเลย โห...นี่แหละ ที่ต้องการ เอาให้มันตายไปเลย (หมายถึงเชื้อโรคค่ะ 555)
ยาดีจริง แม่อย่างเรารู้ทันที กินไปวันแรกตอนเช้าหลังอาหาร ตอนเย็นกลับมาเหมือนคนปกติ ไม่ไอให้ได้ยินเลย แต่ว่ายังมีเสียงขึ้นจมูกอยู่ น้ำมูกยังมีอยู่ วันต่อไป น้ำมูกค่อยๆ เปลี่ยนจากสีเขียวเหลือง เป็นเหลือง เป็นใสขึ้น น้ำมูกค่อยๆ ลดลง แล้วน้ำมูกก็หมดไป เย้!!!! ครบ 10 วัน หายพอดี ประกอบกับสภาพอากาศในกรุงเทพ ค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ
เขียนมายืดยาว ไม่รู้ว่ามีคนตามอ่านหรือเปล่า ลูกค้าที่ร้านส่วนมากเป็นหมอก็หลายท่าน ด้วยความเคารพเลยนะคะ เล็กคิดว่า การรักษาโรคของหมอแต่ละคนเป็นศิลปะ บางคนชอบให้ยาแบบเรื่อยๆ ตามหลัก ตามอาการ บางคนรวดเร็ว ให้ยาแรง ขึ้นอยู่กับเราจะเจอใคร พอดีเนยอาจจะเจอหมอที่ใช่ ช้าไปหน่อยเท่านั้นเอง
อยากจะสรุปไว้ว่า
-โรคภัยจะมาเมื่อไรก็ไม่มีใครรู้
-มลพิษ ทำร้ายเด็กได้มากกว่าที่คิด
-ทางที่ดี ต้องให้ร่างกายแข็งแรงไว้มากที่สุด
-หลังจากหายคราวนี้ ต้องเคี่ยวเข็ญให้ออกกำลังกายมากๆ
-เป็นประสบการณ์ชีวิตของลูก ที่ได้เห็นร่างกายเป็นทุกข์จริงๆ
-เป็นประสบการณของแม่ ที่เห็นสายใยเกาะเกี่ยวกับลูก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น