คิดว่าหัวข้อนี้ หลายคนอยากรู้อยู่เหมือนกัน เคยสงสัยไหมคะว่า
เราจะสามารถเลือกนิทานอย่างไรให้ถูกใจลูก?
มีวิธีไหนไหม?
แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าลูกชอบอะไร?
ให้ใครช่วยเลือกให้ดีไหม?
หรือให้แม่ค้าขายหนังสือช่วยเลือกให้?
ที่จริงแล้ว แม่ค้าขายหนังสือ สามารถช่วยเลือกให้คร่าวๆ ได้ว่า อายุเท่านี้ เหมาะกับหนังสือแบบไหน อ่านแบบไหนได้ แต่จุดสำคัยพ่อแม่ต้องหาคำตอบเอาเองค่ะ และพ่อแม่จะรู้ดีที่สุดด้วยค่ะ
กรณีที่ลูกยังเล็กอยู่ ไม่สามารถบอกได้ว่าเค้าต้องการอะไร หรือว่าเค้ายังไม่มีประสบการณ์มากพอที่จะเลือกอย่างที่ชอบ คือเค้าไม่รู้ว่าหนังสือดีๆ มีแบบไหนบ้าง พ่อแม่ต้องเป็นคนช่วยเลือก เพื่อเปิดโอกาสให้เค้าได้รู้จักหนังสือหลายๆ แบบ
โดยทำอย่างไร ?
คำตอบคือ "ลองผิด ลองถูก" ค่ะ
ช่วงแรกที่เล็กอ่านหนังสือนิทานภาษาอังกฤษให้ลูกฟัง ก็เลือกไม่ถูกเหมือนกัน ได้แต่เลือกที่เราชอบไว้ก่อน 5555 เพราะว่าต้องอ่านบ่อยไง และคิดว่าลูกอาจจะชอบ โดยสังเกตพฤติกรรมของลูกไปด้วย เช่น
ลูกชอบสัตว์ ชอบสุนัข แมว เราก็หาหนังสือเกี่ยวกับสัตว์ให้ลูก
ลูกชอบรถยนต์ รถไฟ เครื่องบิน เราก็เลือกนิทานแบบนั้นมา
ลูกชอบไดโนเสาร์ เราก็เลือกนิทานเกี่ยวกับเรื่องนั้นมา
เมื่อเรานำนิทานมาอ่านให้ลูกฟังสักพัก เราจะรู้และเริ่มจับทางถูกแล้วว่า ลูกชอบประเภทไหน คุณพ่อคุณแม่จะเริ่มชำนาญในการเลือกนิทานมากขึ้น พอหนังสือมาถึงบ้าน คุณลูกก็จะรีบเปิดหนังสือออกมาดู และยิ้มให้แม่อย่างชื่นใจ ว่า "ถูกใจจังค่ะ / ครับ"
เมื่อเด็กเริ่มโต เข้าชั้นประถม เค้าก็จะสามารถเลือกนิทานเองได้แล้ว ว่าชอบอ่านแบบไหน ไม่ชอบแบบไหน ตอนเด็กนี่ยังเลือกเองไม่ได้มาก พ่อแม่อ่านอะไรก็ต้องฟังแบบนั้น ดังนั้นแนะนำว่า อ่านหนังสือนิทานให้เค้าฟังหลากหลายตั้งแต่เด็กๆ จะดีมากกว่าไปอ่านตอนโต (ตอนโตเริ่มเรื่องเยอะค่ะ :) )
อีกเรื่องหนึ่ง คือโมเม้นท์ที่ลูกค้าส่งรูปลูกๆ ที่อ่านหนังสืออย่างดีใจ ยิ้มแย้มแจ่มใส มาให้เล็กดู เป็นความสุขของคนเป็นแม่ค้าขายหนังสือด้วยจริงๆ นะคะ เห็นเด็กอ่านหนังสือแล้วก็ดีใจ ว่าได้ส่งสิ่งที่มีประโยชน์ให้กับผู้อื่น เล็ก Save รูปลูกของทุกคนเก็บไว้ในไฟล์คอมพิวเตอร์ รวมแล้วได้เยอะมาก ยังไม่กล้าเอามาโพสต์ เพราะว่าเป็นความส่วนตัวของแต่ละบ้าน แต่ขอบอกว่าประทับใจมากค่ะ บางคนส่งคลิปมาให้ดูด้วย ว๊าว!! ยืนยันว่า เด็กทุกคนชอบอ่านและฟังนิทาน มาสร้างเด็กให้รักการอ่านกันนะคะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น