ตอนแรกที่เล็กได้ชื่อ รร.ตำรวจตะเวณชายแดน เฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา บ้านแพะ ต.แม่ตื่น อ.แม่ระมาด จ.ตาก ก็รีบทำการหาข้อมูลจากในกูเกิ้ล
ได้รูป พร้อมรายละเอียดมาพอสมควร ดูเป็นโรงเรียนที่ค่อนข้างมีตึก อาคารใหญ่โตดีนี่นา
เนื่องจากมีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ และ สมเด็จพระเทพรัตน์ฯ เคยเสด็จมาที่นี่หลายปีก่อน
ยังพูดกับแฟนเลยว่า รร.นี้ดูค่อนข้างดี ตึกอะไรดูใหม่เลย คือใจจริงอยากจะเอาหนังสือไปบริจาค รร.ที่จนๆ และอาคารไม้เก่าๆ (แบบในจินตนาการ)
ขณะแพ็คของไป ก็วาดภาพไปว่า ที่นี่คงติดถนนใหญ่ ไปมาสะดวก สบายๆ จะแบ่งของบริจาคที่นี่ส่วนหนึ่ง แล้วผ่านที่ไหน รร.ยากจน ๆ ก็จะบริจาครายทางที่เหลือ
เราออกเดินทางตั้งแต่ 26 เมย.59 พัก 1 คืน และนัดกันเป็นขบวนออกเดินทางขึ้นเขาด้วยกันในวันรุ่งขึ้น กับ พนักงาน บจก.คัดสรร อินโนเทค และ อ.ดลทรัพย์ ปรีชาสวรรค์
"ขึ้นเขา"
"อ๋อ" หรอ??
"อืม..."
"ต้องขึ้นเขาด้วยหรอ"
"ไกลไหม" ??
เค้าว่า "ไม่ไกลมาก"
โอเค....
ก็ยังคิดว่า...ไม่เป็นไร...ขึ้นเขาก็โอเค สบายๆ ทางคงจะดี เหมือนทางขึ้น อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่เคยไป ต้นไม้คงจะปกคลุมร่มรื่น อากาศคงจะเย็นสบาย ชุ่มชื่น 5555
เราใช้ระยะเวลา 2 ชั่วโมง ในการขึ้นเขา ...อ่านไม่ผิดค่ะ..2 ชั่วโมง
ช่วงแรกยังเป็นทางลาดยางดีๆ มีรถสวนมาเป็นระยะ ไม่มาก นับได้ประมาณ ไม่เกิน 10 คัน
ภูเขาที่นี่เป็นภูเขาหัวโล้น ไม่ค่อยมีต้นไม้เหลือแล้ว มีการเผาป่า ต้นไม้หายเกลี้ยงเลย อากาศร้อนมากๆ
คนที่นี่เค้าทำนาขั้นบันได ปลูกพืชผัก พวก ผักกาดขาว กระหล่ำปลี
ช่วงสุดท้ายของทางขึ้นยอดเขา แค่ 19 กิโลเมตร เราใช้เวลา 1 ชั่วโมง คือเป็นทางขรุขระ ดินแดง ทางคดเคี้ยว หน้าฝนนี่หมดโอกาสขึ้น ตัดขาดโลกภายนอกแน่นอน
ถึงแล้วค่ะ เจ้าหน้าที่ที่เป็น ตำรวจตระเวณชายแดน ออกมาต้อนรับ อธิบายว่า ที่นี่เป็นจุดที่เจริญที่สุดแล้วใน ต.แม่ตื่น
ที่นี่มีนักเรียนทั้งหมด 177 คน ตั้งแต่อนุบาล-ประถมปีที่6 บ้านของแต่ละคนอยู่ไกลมาก ประมาณ 25 กม. เวลามาโรงเรียน ต้องใช้เวลา "เดิน" มาประมาณครึ่งวัน
บางส่วนของนักเรียนจึงต้องอยู่กิน-นอนที่โรงเรียน (ประมาณ 40 คน) ประมาณ 2-3 เดือน จึงได้มีโอกาสกลับบ้านหนหนึ่ง
ด้านหน้าโรงเรียน ที่ป้ายชื่อโรงเรียน สวยงาม ถนนปูน เหมือนในรูปที่เคยเห็น ด้านในมีตึกอาคารใหม่ที่เพิ่งสร้างเป็นห้องเรียนของนักเรียน
อาคารที่เป็นที่ประชุม สร้างด้วยเสาไม้ หลังคากระเบื้อง ร้อนจริงๆ เด็กที่มาในวันนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่ง (บางส่วนกลับบ้าน เพราะว่าปิดเทอม)
พวกเค้าใส่ชุดพื้นเมืองของเค้า นั่งนิ่งๆ ไม่ได้มีท่าที แสดงออกว่า "ร้อน" เหมือนอย่างพวกเรา ที่เข้ามามีแต่เหงื่อท่วมตัว
แฟนถามว่า จะให้เอากล่องไหนลงมาบริจาคบ้าง กล่องไหนจะเก็บไว้บริจาคที่อื่น เล็กตอบไปว่า "บริจาคที่นี่ให้หมดเลย"
อ.ดลทรัพย์ เป็นผู้เริ่มโครงการบริจาคนี้ เนื่องจาก อาจารย์เป็นเด็กดอย จบจากที่นี่ จึงต้องการฟื้นฟูที่นี่ ได้บอกบริษัทต่างๆ ช่วยกันบริจาค
ยอดบริจาครอบนี้อยู่ที่ 350,000 บาทพอดี
เค้าจะนำเงินนี้ไปสร้างโรงอาหาร ที่ด้านหลัง ลงเสาแล้ว กำลังทำพื้นอยู่
ด้านข้างๆมีโครงการเกษตร เพื่ออาหารกลางวัน มีการปลูกต้นไม้ ที่สามารถใช้เป็นอาหารได้ นอกจากนั้นยังมีโรงเพาะเห็ดเป็นห้องเล็กๆ อีกด้วย
เด็กๆน่ารักมากๆ เค้าดูเรียบร้อย แล้วยังมีการแสดงให้พวกเราได้ชมอีกด้วย
เราออกจากโรงเรียนประมาณบ่าย 2 โมง เวลาลงเขาเร็วกว่าเวลาขึ้นเล็กน้อย มีรถสวนขึ้นเขามาไม่มากเหมือนเดิม
ขากลับแวะไหว้พระที่วัด พระบรมธาตุบ้านตาก หลวงพ่อทันใจ ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ ผู้คนมักแวะมากราบไหว้มากมาย
ทริปนี้เนยได้เรียนรู้หลายอย่าง ว่ายังมีเด็กอีกมากมายที่เค้า "ไม่มี" "ไม่พร้อม"
เค้าต้องขวนขวายขนาดไหน เพื่อจะ "ได้เรียนหนังสือ" ลำบากแค่ไหนในการเดินทาง
เมื่อเห็นและได้หยิบยื่นสิ่งของ ขนมให้เด็ก เธอก็เลิกบ่นว่า
"เดินทางลำบาก"
"เหนื่อย"
ใครที่อ่านรีวิวทริปนี้จบแล้ว สนใจอยากจะช่วยกระจายข่าว เพื่อเป็นอีกหนทางหนึ่งที่จะช่วยเหลือเด็ก สามารถช่วยกันแชร์ รีวิวนี้ไปให้ทั่วๆได้เลยนะคะ
เผื่อว่าจะมีท่านผู้ใหญ่ใจดี มองเห็นความสำคัญของเด็กที่นี่ค่ะ